อาการหลังจัดฟันมีอะไรบ้าง บรรเทาอาการอย่างไรดี

อาการหลังจัดฟัน

หากคุณมีปัญหาฟันจนถึงคราวต้องจัดฟัน แต่ก็กังวลเกี่ยวกับอนาคตว่าจะมีอาการหลังจัดฟันอะไรบ้าง อาการหนักเบามากน้อยแค่ไหน แล้วมีบรรเทาอาการอย่างไรได้บ้าง วันนี้หมอณัฐจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

อาการหลังจัดฟันที่คุณควรรู้มีอะไรบ้าง

1. อาการปวดฟันหลังการจัดฟัน

เกิดจากแรงดันฟันไปกดหลอดเลือดเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่คุณหมอวางแผนการรักษาเอาไว้ จะทำให้กระดูกรากฟันด้านที่ถูกกดเริ่มละลายตัวเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปในทิศทางที่คุณหมอต้องการ โดยที่กระดูกฝั่งตรงข้ามจะเกิดการเสริมสร้างใหม่และทำให้ฟันโยกตามมา ทั้งนี้อาการปวดฟันมักเกิดขึ้นเฉพาะจุดที่คุณหมอปรับเท่านั้น คนไข้จึงรู้สึกปวดแค่จุดนั้นเพียงจุดเดียว โดยทั่วไปแล้วอาการปวดจะเริ่มเกิดขึ้นหลังการปรับเครื่องมือประมาณ 8 ชั่วโมง จากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 3 – 5 วัน ทั้งนี้หากรู้สึกปวดจนทนไม่ไหว แนะนำให้ทานยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อบรรเทาอาการ

2. พูดคุยไม่สะดวก

อันเนื่องมาจากเครื่องมือจัดฟันเข้ามาอยู่ในช่องปากและขัดขวางการเคลื่อนไหวของริมฝีปากและลิ้น ส่งผลให้การออกเสียงคำบางคำผิดแปลกไปจากเดิม ซึ่งในช่วงแรกช่องปากของเรายังไม่คุ้นชินและอาจก่อให้เกิดความรู้สึกระคายเคืองในช่องปาก สร้างความลำบากในการออกเสียงเพราะขยับปากได้ไม่สะดวกเหมือนตอนที่ยังไม่ได้ใส่เครื่องมือจัดฟัน แต่เมื่อร่างกายปรับตัวและเริ่มชินกับเครื่องมือจัดฟันแล้ว เราก็จะเริ่มออกเสียงพูดคุยได้ตามปกติค่ะ

3. เศษอาหารติดซอกฟันง่ายขึ้น

เนื่องจากช่องปากของเรามีเครื่องมืออยู่ภายในตลอดเวลา ทำให้การทำความสะอาดเป็นไปได้ยากขึ้น นอกจากเศษอาหารจะหลุดเข้าไปติดตามซอกฟันแล้ว ยังติดเครื่องมือจัดฟันง่ายอีกด้วย และที่สำคัญเศษอาหารที่ตกค้างเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดกลิ่นปากตามมาได้อีกด้วยค่ะ ทางที่ดีควรแปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหารร่วมกับใช้เครื่องมือทำความสะอาดอื่น ๆ ร่วมด้วย ได้แก่ ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน แปรงกระจุก และน้ำยาบ้วนปาก

4. เป็นแผลร้อนใน

เกิดจากลวดจัดฟันและแบร็คเก็ตข่วนภายในช่องปากขยับหรือเสียดสีไปมาตลอดเวลาจนเกิดการระคายเคืองและเกิดแผลตามมา นอกจากนี้ยังรวมไปถึงลวดเหล็กของเครื่องมือที่แหลมเกิดทิ่มเหงือกของเราขึ้นมาอีกด้วย ทั้งนี้คนไข้สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยการนำขี้ผึ้งมาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ และทาไปยังบริเวณที่แหลมคมเพื่อปิดไม่ให้ลวดทิ่มเหงือกซ้ำ นอกจากนี้สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการร่วมด้วยก็ได้ค่ะ

5. เหงือกร่น

เกิดจากเครื่องมือจัดฟันไม่เหมาะสมกับสภาพของฟันหรือไม่เข้ารูปกับขากรรไกร ทำให้เครื่องมือบีบรัดฟันกับเหงือก ส่งผลให้เหงือกร่น นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ความเสี่ยงที่เกิดจากพฤติกรรมของคนไข้เอง นั่นคือการจัดฟันแฟชั่นโดยที่ไม่ได้มีปัญหาฟันและจัดกับคลินิกเถื่อน หรือตัวคนไข้เองละเลยการเข้าพบคุณหมอฟันตามนัดหมาย ส่งผลให้เครื่องมือที่หมดอายุการใช้งานแล้วยังคงอยู่ในช่องปากนานเกินไป นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการแปรงฟันผิดวิธี หนักมือเกินไปหน่อย หรือใช้แปรงสีฟันที่มีขนแข็งมาก ส่งผลให้เหงือกร่นได้ด้วยเช่นกันค่ะ

6. เหงือกบวม

เป็นอีกหนึ่งในอาการหลังจัดฟันที่เกิดขึ้นได้บ่อยโดยมาจาก 3 สาเหตุ ได้แก่ การเคลื่อนที่ของฟัน เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันจะดึงรั้งให้ฟันเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ต้องการอย่างรวดเร็วตามแผนการรักษาของคุณหมอ ทำให้ระคายเคืองต่อเหงือกจนเหงือกบวมแดง, ตัวเครื่องมืออยู่ติดชิดกับเหงือกมากเกินไป จึงไปรบกวนเนื้อเยื่อภายในช่องปากและเกิดเหงือกอักเสบตามมา และที่สำคัญยังเกิดจากการดูแลทำความสะอาดช่องปากไม่ทั่วถึงทำให้เศษอาหารที่ติดอยู่กลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียและเจริญเติบโตอยู่ตามเครื่องมือจัดฟันหรือซอกฟันมากขึ้น จนก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่อเหงือกได้

7. ฟันโยก

เกิดจากเครื่องมือจัดฟันกำลังเคลื่อนฟันของคุณทีละนิด ในช่วงแรกคนไข้อาจไม่รู้สึกชินมากนักเพราะอาจไม่เคยจัดฟันมาก่อนแต่อาการนี้ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นหลังจากปรับเครื่องมือนะคะ โดยทั่วไปแล้วอาการนี้จะเกิดขึ้นประมาณ 5 – 7 วันหลังการจัดฟัน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ นอกจากนี้อาจเกิดจากการใส่เครื่องมือจัดฟันเป็นเวลานานเกินไปด้วยนะคะ ในช่วงระหว่าง 7 วันนี้หมอณัฐแนะนำให้ระมัดระวังในการรับประทานอาหารโดยการตัดแบ่งอาหารออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อให้รับประทานง่ายและไม่เป็นภาระต่อฟันและเหงือกมากเกินไป รวมถึงเข้าพบคุณหมอตามนัดหมายทุกครั้งด้วยเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องมือจัดฟันซึ่งนอกจากจะช่วยให้ฟันไม่โยกง่ายแล้ว ยังช่วยให้ผลการรักษาเป็นไปตามแผนของคุณหมอด้วยค่ะ

9. เครื่องมือจัดฟันหลุด

หนึ่งในปัญหาที่คนจัดฟันส่วนใหญ่ประสบนั่นคือเครื่องมือจัดฟันหลุด โดยมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการไม่ระมัดระวังในการรับประทานอาหาร ใช้ฟันบดเคี้ยวอาหารแข็งหรือเหนียวโดยไม่ได้หั่นแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อน, นอนกัดฟันโดยไม่รู้ตัว, ใช้ลิ้นดุนฟันเล่นบ่อย ๆ , แปรงฟันแรงเกินไป, ใช้แปรงขนแข็งเกินไป, การเคลื่อนตัวของฟันในคนไข้ที่มีฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันเรียงตัวกันอย่างหนาแน่น ส่งผลให้เครื่องมือจัดฟันหลวมและหลุดออกมา ในกรณีที่เครื่องมือจัดฟันหลุดและมีเหล็กจัดฟันทิ่มออกมาไม่มากแต่ยังโดนกระพุ้งแก้มอยู่ แนะนำให้คนไข้ใช้ขี้ผึ้งที่คุณหมอให้มาปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วแปะไปที่ปลายเหล็กเพื่อป้องกันเหล็กทิ่มเหงือกจนเกิดบาดเรื้อรังตามมา ทั้งนี้หากเครื่องมือจัดฟันหลุดแม้ว่าจะยังไม่ถึงเวลานัดก็ตาม ควรรีบพบคุณหมอเพื่อหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด เพราะหากเครื่องมือจัดฟันหลุดบ่อยอาจส่งผลทำให้ยืดระยะเวลาจัดฟันให้นานขึ้นได้นั่นเองค่ะ

มีวิธีบรรเทาอาการได้อย่างไรบ้าง

  • บ้วนน้ำเกลือเพื่อบรรเทาอาการปวดและลดอาการอักเสบ
  • ทายาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเป็นเวลา 7 วัน ได้แก่ ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นแพทย์จะจ่ายยาไอบูโพรเฟน (Ibuprofen)
  • กรณีที่ผู้ป่วยติดเชื้อหรือมีหนอง แพทย์จะจ่ายยาอะม็อกซีซิลลิน (Amoxicillin) หรือเมโทรนิดาโซล (Metronidazole)
  • แต่หากทานยาครบ 7 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจมีสาเหตุมาจากรากฟัน ให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที ไม่ฝืนทานต่อเพราะยามีผลต่อกระเพาะอาหาร
  • งดรับประทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวมากเกินไป เช่น ลูกอม หมากฝรั่ง น้ำแข็ง เนื้อวัว ฝรั่ง ข้าวโพด เพื่อป้องกันเครื่องมือจัดฟันเสียหาย
  • รับประทานอาหารช่วยลดอาการปวด เช่น น้ำแข็งใส ไอศกรีม สมูทตี้ โยเกิร์ต
  • กรณีที่ไม่ชอบทานของเย็น แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูห่อน้ำแข็งประคบตรงบริเวณที่ปวด
  • หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กเพื่อให้รับประทานอาหารง่ายขึ้นและป้องกันเศษอาหารติดเครื่องมือ
  • กรณีที่เหล็กทิ่มกระพุ้งแก้ม ให้ทาขี้ผึ้งที่คุณหมอให้มาไปยังส่วนที่เครื่องมือทิ่มกระพุ้งแก้มอยู่
  • กรณีที่มีแผลร้อนในจากเครื่องมือทิ่ม ให้ทายาไตรแอมซิโนโลน (Triamcinolone) เพื่อบรรเทาอาการ
  • แปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหารเพื่อป้องกันเศษอาหารติดซอกฟันหรือเครื่องมือที่เป็นสาเหตุของอาการปวดฟัน
  • นอกจากนี้ควรใช้ไหมขัดฟัน แปรงซอกฟัน แปรงกระจุก และน้ำยาบ้วนปากร่วมด้วย เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึก
  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เกิดจากความเคยชินที่ทำให้ฟันเสียหาย เช่น ใช้ลิ้นดุนฟัน กัดฟันแสดงอารมณ์ กัดเล็บ หรือแม้แต่นอนกัดฟัน
  • หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับช่องปากหลังติดเครื่องมือ ให้รีบพบแพทย์ทันที ไม่ต้องรอมาตามนัดหมาย
  • มาตามนัดหมายของคุณหมอทุกครั้ง เนื่องจากเครื่องมือจัดฟันมีอายุการใช้งานตามที่คุณหมอได้กำหนดไว้ หากไม่เข้าไปเปลี่ยนเครื่องมือก็อาจเสี่ยงต่อเครื่องมือมีปัญหา มีผลต่อระยะเวลารักษาที่ยืดออกไป

จัดฟันที่ไหน ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง

หรือหากใครไม่สะดวกมาถึงขอนแก่น ตอนนี้ เรามีสาขาที่ 2 สาขากรุงเทพ-นนท์ แล้วนะคะ โดยคลินิกของเราจะอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT แยกติวานนท์ ทางออก 3 สำหรับใครที่ไม่สะดวกมาหาเราถึงขอนแก่นก็สามารถเดินทางมาหาเราได้ที่คลินิกสาขากรุงเทพได้เลยค่ะ สำหรับที่จอดรถจะอยู่ที่ปั้มเชลล์ฝั่งตรงข้าม หรือจอดในซอยกรุงเทพ-นนท์7 และ 7/1 ได้เช่นกันค่ะ ใครสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 098-0989558 ได้เลยค่า

ทำไมต้องทำฟันที่-Toothluck

รีวิวจัดฟันกับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น

บทความที่น่าสนใจ