รวม 10 คำถาม ตอบทุกข้อสงสัย ก่อนที่คุณจะทำรากฟันเทียม

ทำรากฟันเทียม

แม้ว่าการทำรากฟันเทียมจะเป็นวิธีการรักษาทางการแพทย์ที่ดีต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาว แต่หลายคนก็ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาประเภทนี้อยู่พอสมควร วันนี้หมอณัฐได้รวบรวม 10 คำถามที่เกี่ยวข้องกับรากฟันเทียมมาฝากกันค่ะ

ตอบ 10 ข้อสงสัยก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม

1. ทำไมต้องทำรากฟันเทียม

การทำรากฟันเทียมเป็นการรักษาทางทันตกรรมด้วยการใช้วัสดุที่ผลิตจากไทเทเนียมที่มีลักษณะคล้ายน็อตสกรูฝังลงไปในกระดูกขากรรไกรเพื่อทดแทนรากฟันที่หลุดออกไปและติดฟันปลอมไว้ด้านบนเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไป ซึ่งการทำรากฟันเทียมจะช่วยให้คนไข้เลือกใส่ฟันปลอมแบบถอดได้หรือแบบติดแน่นก็ได้เช่นกัน 

2. รากฟันเทียมอยู่ได้นานไหม

ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของคนไข้ค่ะ หากดูแลรักษารากฟันเทียมได้ดี มาตรวจเช็กตามนัดสม่ำเสมอ ก็สามารถใช้งานรากฟันเทียมได้ในนานหลายสิบปีเลยค่ะ

3. รากฟันเทียม ข้อดี ข้อเสีย มีอะไรบ้าง

3.1 ข้อดีของรากฟันเทียม

  • ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารและการออกเสียงไม่ต่างจากฟันธรรมชาติเลย
  • ให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติได้มากกว่าฟันปลอมชนิดอื่น
  • เพิ่มความมั่นใจทุกครั้งเวลายิ้ม
  • อายุการใช้งานยาวนานหากคนไข้เข้ารับการตรวจเช็กอย่างสม่ำเสมอ
  • ไม่ต้องกรอฟันข้างเคียง ช่วยป้องกันการสูญเสียฟันและกระดูกข้างเคียง
  • ใช้ร่วมกับสะพานฟันและครอบฟันได้
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีฟันเหลือน้อยและผู้ที่ต้องการทำฟันปลอม

3.2 ข้อเสียของรากฟันเทียม

  • ราคาสูงกว่าฟันปลอมแบบอื่น
  • ใช้เวลาในการรักษานานกว่าฟันปลอมแบบอื่น เนื่องจากต้องรอให้กระดูกยึดเข้ากับรากเทียม
  • หากคนไข้สูญเสียฟันเป็นเวลานานหากมีอาการกระดูกขาดกรรไกรยุบหรือละลายตัว ส่งผลให้ฟันปลอมที่ติดบนรากเทียมอาจไม่สวยเหมือนฟันธรรมชาติ
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจําตัวบางประเภท เช่น โรคจิตเภท โรคเบาหวาน

4. รากฟันเทียมเหมาะ / ไม่เหมาะกับใครบ้าง

4.1 รากฟันเทียมเหมาะกับใคร

  • คนไข้ที่สูญเสียฟันธรรมชาติและต้องการใส่ฟันทดแทน
  • คนไข้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่กระดูกขากรรไกรเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
  • คนไข้ที่มีฟันบิ่นหรือแตกหัก จำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออก
  • คนไข้ที่ไม่ต้องการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้
  • คนไข้ที่ไม่ต้องการกรอฟันเพื่อทำสะพานฟันติดแน่น

4.2 รากฟันเทียมไม่เหมาะกับใคร

  • คนไข้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากกระดูกขากรรไกรเจริญเติบโตไม่เต็มที่
  • สตรีมีครรภ์ ควรคลอดบุตรก่อนทำรากฟันเทียม
  • คนไข้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่มีผลทำให้แผลหายช้า เช่นโรคเบาหวาน
  • คนไข้ที่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน
  • คนไข้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ป่วยจิตเภท หรือผู้ที่ไม่สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้ด้วยตัวเอง
  • คนไข้ที่เป็นโรคกระดูกพรุนหรือมีภาวะกระดูกไม่แข็งแรง
  • ผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบขั้นรุนแรง ควรเข้ารับการรักษาก่อนทำรากฟันเทียม
  • คนไข้ที่มีปัญหาการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ

5. รากฟันเทียมมีกี่แบบ อะไรบ้าง 

ในปัจจุบันมีรากฟันเทียมทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ รากฟันเทียม 1 ซี่, รากฟันเทียมหลายซี่, รากฟันเทียมฟันหายจำนวนมาก, รากฟันเทียมทดแทนฟันที่หายไปทั้งปาก และรากฟันเทียมทั้งปากแบบ All on 4 โดยรากฟันเทียมแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้

5.1 รากฟันเทียม 1 ซี่ (Single Dental Implant)

เป็นการทำรากฟันเทียมลักษณะคล้ายสกรู 1 ตัว และฟันปลอมแบบติดแน่น 1 ซี่ หรืออาจทำหลายซี่แต่อยู่ในตำแหน่งที่ห่างกันก็ได้ ข้อดีคือไม่จำเป็นต้องกรอฟันซี่ข้างเคียงเพื่อติดสะพานฟัน สามารถบดเคี้ยวอาหารได้เหมือนฟันธรรมชาติ สามารถทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันแล้วใช้ไหมขัดฟันได้เลยค่ะ

5.2 รากฟันเทียมหลายซี่ (Multiple Dental Implants)

เป็นการทำรากฟันเทียมเพื่อทดแทนรากฟันที่หายไปตั้งแต่ 2 ซี่ขึ้นไปโดยอยู่ในตำแหน่งที่ติดกันแต่ยังพอมีฟันด้านข้างเหลือไว้เป็นตัวยึด โดยมีสะพานฟันปิดช่องว่างและมีแกนฟันเป็นตัวเชื่อมระวังรากฟันเทียมกับสะพานฟัน

5.3 รากฟันเทียมสำหรับฟันหายเป็นจำนวนมาก (Implants Support Bridge)

เป็นการทำรากฟันเพื่อทดแทนรากฟันที่หายไปเป็นจำนวนมากทั้งฟันบนและฟันล่าง โดยการทำรากฟันลักษณะนี้จะต้องวางรากฟันเทียมเรียงไปตามแนวเหงือก เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่เหลือฟันด้านข้างเอาไว้เป็นหลักยึดสะพานฟัน

5.4 รากฟันเทียมทดแทนฟันหายทั้งปาก (Implants Over Denture)

เป็นรากฟันเทียมที่ใช้ Attachment ที่มีลักษณะคล้ายคลึงทรงกลมในการยึดรากฟันเทียมกับปลายอีกด้านหนึ่ง เหมาะสำหรับคนไข้ที่สูญเสียฟันเกือบทั้งปากหรือสูญเสียทั่วทั้งปาก 

5.5 รากฟันเทียมทั้งปากแบบ All on 4

เป็นรากฟันเทียมที่ใช้ทดแทนฟันทั่วทั้งปาก ประกอบไปด้วยรากฟันเทียม 4 ชิ้นที่วางไว้บนกระดูกขากรรไกรเพื่อทำหน้าที่เป็นจุดยึดสำหรับสะพานฟันถาวร เหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันและไม่สามารถทำรากฟันเทียมแบบ Implants Over Denture ได้ นอกจากจะให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติแล้วรากฟันเทียมชนิดนี้ยังไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาทุกวันเหมือนฟันปลอมแบบอื่นอีกด้วย

5.6 รากเทียม Zygoma

เป็นการทำรากฟันเทียมเพื่อทดแทนฟันด้านบนขากรรไกร เหมาะสำหรับคนไข้ที่สูญเสียฟันทุกซี่ที่อยู่บริเวณขากรรไกรบนและมีปริมาณกระดูกไม่เพียงพอ หรือผู้ที่มีปัญหากระดูกรองรับฟันไม่แข็งแรงพอที่จะทำรากฟันเทียมแบบทั่วไป โดยคุณหมอจะปลูกรากเทียมบนกระดูกโหนกแก้มแทนและทำการผ่าตัดเล็กๆ เพื่อเสริมความมั่นคงให้แก่ทันตกรรมประดิษฐ์

6. ขั้นตอนการทํารากฟันเทียมเป็นอย่างไร

  • คุณหมอจะเอกซเรย์เพื่อตรวจสภาพช่องปากอย่างละเอียดและประเมินความหนาของกระดูกขากรรไกรและเนื้อเยื่อบนสันเหงือก จากนั้นจึงทำพิมพ์ปากประกอบการวางแผนรักษา
  • คุณหมอจะตรวจสอบกระดูกและการติดเชื้อภายในช่องปากของคนไข้ก่อน หากพบการติดเชื้อจะทำการรักษาให้หายขาดเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการฝังรากฟันเทียม ในส่วนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ไปจนถึง 2 เดือน กรณีที่โครงสร้างกระดูกของคนไข้ไม่เพียงพอต่อการทำรากฟันเทียมจำเป็นจะต้องปลูกถ่ายกระดูกเพิ่มด้วย
  • เมื่อสภาพช่องปากพร้อมต่อการฝังรากฟันเทียมแล้ว คุณหมอจะฉีดยาชาเฉพาะที่และผ่าตัดฝังรากฟันเทียมลงไปในกระดูกขากรรไกร จากนั้นเย็บปิดแผลและนัดตัดไหมหลังการผ่าตัดไปแล้วประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • จากนั้นคนไข้จะต้องรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูกขากรรไกรอย่างสมบูรณ์ไปอีกประมาณ 3-4 เดือน
  • เมื่อรากฟันเทียมผสานเข้ากับกระดูกขากรรไกรแล้ว คุณหมอจะทำการติดตั้งวัสดุที่เป็นหลักยึดเพื่อรองรับครอบฟันหรือสะพานฟัน จากนั้นคุณหมอจะทำพิมพ์ปากเพื่อส่งทำข้อความภายใน 1-2 สัปดาห์
  • เมื่อได้ครอบฟันมาแล้วคุณหมอจะติดตั้งครอบฟันหรือสะพานฟันไว้กับโลหะที่เป็นหลักยึดด้วยสารยึดติดทางทันตกรรม

7. ทำรากฟันเทียม เจ็บไหม

ไม่เจ็บค่ะ เนื่องจากก่อนทำรากฟันเทียมคุณหมอจะฉีดยาชาเฉพาะที่ไว้ให้ก่อนอยู่แล้ว แต่หลังจากการรักษาเสร็จสิ้นแล้วอาจมีอาการปวดอยู่บ้าง ซึ่งคุณหมอจะจ่ายยาแก้ปวดให้ทานในปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ค่ะ

8. อาการหลังใส่รากฟันเทียม เป็นอย่างไร

หลังจากยาชาหมดฤทธิ์แล้วก็อาจมีอาการเจ็บปวดตามมาเล็กน้อยหรืออาจมีมาก ขึ้นอยู่กับปริมาณกระดูก สันกระดูก และคุณภาพของเนื้อเยื่อเหงือกบริเวณที่ใส่รากฟันเทียม หากคนไข้มีกระดูกรองรับรากเทียมดีพอต่อการรักษาก็อาจใช้เวลาในการใส่รากฟันเทียมไม่นานนัก ให้ความรู้สึกเจ็บปวดคล้ายๆ กับการถอนฟัน

แต่หากคนไข้มีคุณภาพของเนื้อเยื่อเหงือกไม่ดีพอ มีกระดูกรองรับรากเทียมน้อยเกินไป ก็อาจต้องเจ็บปวดมากกว่าเพราะต้องผ่าตัดเสริมกระดูกหรือเนื้อเยื่อเหงือกเพิ่มเติม ส่งผลให้ใช้เวลาพักฟื้นมากกว่านั่นเอง

ความรู้สึกหลังใส่รากฟันเทียมเป็นอย่างไร ทำยังไงให้หายบวมไวๆ

9. รากฟันเทียม ราคาเท่าไหร่

สำหรับค่าบริการรากฟันเทียมของ Toothluck Dental Clinic จะแบ่งออกดังนี้

  • รากฟันเทียม (รวมครอบ) เริ่มต้นที่ 36,000 บาท
  • ปลูกกระดูก เริ่มต้นที่ 10,000-15,000 บาท
  • ล้างแผล/ตัดไหม (จากที่อื่น) เริ่มต้นที่ 100 บาท
  • ตัดเนื้อพังผืดเยื่อยึดติด เริ่มต้นที่ 2,500-3,000 บาท

10. ทำรากฟันเทียม ที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง

ทำไมต้องทำฟันที่-Toothluck

บทความที่น่าสนใจ

รีวิวจัดฟันกับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น