ยังมีอีกหลายคนที่กลัวการไปหาหมอฟันเลยพยายาม เลยพยายามดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี แต่ต่อให้คุณจะแปรงฟัน 2 ครั้งต่อวัน ใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าคุณภาพสูง ใช้ยาสีฟันยี่ห้อดัง และใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังแปรงฟันก็ตาม แต่ถึงอย่างไรก็ตามคุณก็ต้องไปหาหมอฟันอยู่ดีเพราะการทำความสะอาดฟังด้วยตัวเองอาจไม่เพียงพอ แต่สำหรับใครที่ไม่เคยไปหาหมอฟันมาก่อนเพราะกลัวหมอฟันหรือกลัวเครื่องมือจัดฟัน วันนี้หมอณัฐมีคำแนะนำดีๆ ที่ช่วยให้คุณไม่ต้องไปหาหมอบ่อยๆ ว่าแต่มีวิธีไหนบ้าง มาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ
5 วิธีดูแลสุขภาพช่องปากที่ถูกต้อง ทำได้ ไม่ต้องไปหาหมอฟันบ่อยๆ
1. แปรงฟันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง
การแปรงฟันเป็นการทำความสะอาดช่องปากขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องทำกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยไหนก็ตาม แต่ยังมีอีกหลายคนที่ละเลยการทำความสะอาดช่องปาก บางคนทำความสะอาดเพียงครั้งเดียวแค่ก่อนนอนเท่านั้น หรือบางคนหนักกว่านั้นคือไม่แปรงฟันทั้งวันเลยก็มีเหมือนกัน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ไม่อยากแปรงฟันเพราะรู้สึกว่าแปรงฟันยากหรือเสียเวลาทำกิจกรรมสนุกๆ ซึ่งในวัยเด็กเองก็เป็นช่วงวัยที่เด็กๆ ไม่ได้ใส่ใจในสุขภาพช่องปากเท่าไหร่นัก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญและพยายามฝึกนิสัยของลูกให้รู้สึกว่าการแปรงฟันเป็นเรื่องที่ควรทำและรู้สึกสนุก/มีความสุขที่จะทำ ทั้งนี้อาจให้ลูกๆ มีสิทธิ์ในการเลือกแปรงสีฟันที่มีลายการ์ตูนและเลือกยาสีฟันที่มีกลิ่นที่เขาชอบ รวมถึงใช้เวลาแปรงฟันไปพร้อมลูกในทุกๆ วันได้จะดีมากค่ะ ทั้งนี้อาจเปิดเพลงแล้วร้องไปพร้อมกันก็ดีไม่น้อย เพราะนอกจากจะช่วยให้ลูกรู้สึกสนุกที่ได้แปรงฟันแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังได้ตรวจเช็กไปในตัวด้วยว่าลูกทำความสะอาดช่องปากถูกต้องหรือไม่ หากลูกแปรงผิดวิธีก็สามารถสอนวิธีที่ถูกต้องได้ทันที
แต่หากคุณอยู่ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่แล้ว หมอณัฐก็อยากให้คุณตระหนักถึงผลเสียจากการแปรงฟันเพียงวันละครั้งหรือบางวันก็ไม่แปรงฟันเลยนะคะ เพราะการแปรงฟันที่น้อยเกินไปจะทำให้เศษอาหารสะสมอยู่ในซอกฟันหรือบริเวณฟันคุดที่ทำความสะอาด ส่งผลให้แบคทีเรียภายในช่องปากมีแหล่งอาหารและเจริญเติบโตมากเกินไปจนสร้างคราบพลัคที่อาจทำร้ายช่องปากจนพัฒนามาเป็นปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโรคเหงือกอักเสบ ฟันผุ ฟันสึก หรืออาจกลายเป็นมะเร็งในช่องปากได้เลยทีเดียว
2. ใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดเพิ่มเติม
แน่นอนว่าการใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดช่องปากนั้นคงไม่พอ เพราะแปรงสีฟันไม่สามารถทำความสะอาดช่องปากได้หมดทุกจุด โดยเฉพาะเศษอาหารที่มีขนาดเล็กกว่าขนแปรงที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ดังนั้นคุณควรทำความสะอาดช่องปากเพิ่มเติมด้วยไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันออกให้หมด ทั้งนี้หากคุณไม่เคยใช้ไหมขัดฟันมาก่อน หมอณัฐขอแนะนำให้ใช้ไหมขัดฟันที่เคลือบขี้ผึ้ง ซึ่งจะช่วยให้ตัวไหมซอกซอนเข้าไปในซอกฟันได้ง่าย ตัวไหมควรมีเส้นเล็กและแบน เส้นเหนียวไม่ขาดง่าย และที่สำคัญไม่ควรคมเกินไปเพื่อป้องกันการบาดเหงือกค่ะ
3. งดพฤติกรรมเสี่ยง
สำหรับใครก็ตามที่มีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำร้ายช่องปาก หมอณัฐแนะนำให้เลิกทำโดยด่วนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเคี้ยวหมากพลูหรือยาเส้น การนอนกัดโดยไม่รู้ตัว โดยพฤติกรรมเหล่านี้มีผลเสียต่อสุขภาพช่องปากในระยะยาวดังนี้
- สูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารพิษจำนวนมากที่ทำร้ายช่องปาก ทั้งมีกลิ่นปากง่ายขึ้น ความสามารถในการรับรสลดลง การหลั่งน้ำลายลดลง ฟันผุง่ายขึ้น มีโอกาสติดเชื้อบริเวณเบ้ากระดูกเบ้าฟัน หรืออาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งช่องปากได้อีกด้วย นอกจากนี้บุหรี่ยังเป็นอันตรายต่อระบบอื่นๆ ในร่างกายในระยะยาว
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์มีฤทธิ์ลดการหลั่งน้ำลาย ทำให้กรดและคราบจุลินทรีย์สะสมอยู่ในช่องปากมากขึ้น ส่งผลให้ฟันเหลืองและมีคราบติดแน่นง่าย เสี่ยงต่อฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ และโรคมะเร็งช่องปาก
- การเคี้ยวหมากพลู หากเคี้ยวเป็นประจำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปากที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งช่องปากและโรคปริทันต์ตามมา
- การนอนกัดฟัน หลายคนอาจเคยชินกับการกัดฟันเวลาแสดงอารมณ์โกรธ เครียด หรือรู้สึกเจ็บปวด บางคนอาจเผลอกัดฟันบ่อยๆ เวลานอน หากปล่อยไว้นานๆ อาจเกิดฟันบิ่น แตก หรือร้าว หรืออาจถึงขั้นฟันสึกทะลุโพรงประสาทจนไม่สามารถใช้งานฟันซี่นั้นได้ มีผลต่อการบดเคี้ยวที่ลดประสิทธิภาพลงและมีผลต่อปัญหาช่องปากอื่นๆ
- การใช้ฟันผิดประเภท บางคนอาจชินกับการใช้ฟันเปิดขวด ใช้ฟันแกะเล็บ ใช้ฟันเคี้ยวน้ำแข็ง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้ฟันสึกง่ายและเกิดปัญหาฟันอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
4. รับประทานอาหารบำรุงฟัน
- แคลเซียม (Calcium) ได้แก่ นม หอยนางรม คะน้า ใบชะพลู งาดำ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ฟัน บำรุงเคลือบฟัน เนื้อฟัน และกระดูก ลดโอกาสเกิดฟันผุ
- ฟลูออไรด์ (Fluoride) ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี แอปเปิล ผักใบเขียว อาหารทะเล ช่วยชะลอการย่อยสลายของแร่ธาตุให้คืนกลับเข้าสู่ผิวฟัน ทำให้สารเคลือบฟันแข็งแรง ลดโอกาสเกิดฟันผุในระยะแรก
- วิตามิน B2 (Riboflavin) ได้แก่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน ตับ ผักใบเขียว ถั่วเหลือง ธัญพืชไม่ขัดสี มะม่วง ป้องกันเยื่อบุช่องปากอักเสบ ป้องกันแผลที่ริมฝีปาก มุมปาก และลิ้น
- วิตามิน C (Ascorbic Acid) ได้แก่ ผักคะน้า ผักบุ้ง ส้ม สัปปะรด ฝรั่ง ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน แผลร้อนใน และเหงือกอักเสบ
- น้ำเปล่า การดื่มน้ำเปล่าวันละ 8 แก้ว (2,000 มิลลิลิตร) จะช่วยชะล้างเศษอาหารและเติมความชุ่มชื้นภายในช่องปาก ป้องกันปากแห้ง ลดปัญหากลิ่นปาก และป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
5. หาหมอฟันอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
จริงอยู่ที่การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวันจะช่วยกำจัดเศษอาหารได้อย่างหมดจด แต่อย่าลืมนะคะว่ายังมีคราบพลัคที่เกิดขึ้นจากแบคทีเรียในช่องปากที่เราไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องใช้เครื่องมือทันตแพทย์ในการกำจัดออกเพียงอย่างเดียว ดังนั้นไม่ว่าใครก็ตามจะต้องไปหาหมอฟันอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพราะนอกจากจะให้คุณหมอกำจัดหินปูนที่เกิดจากคราบพลัคแล้ว ยังเป็นการตรวจเช็กปัญหาช่องปากที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นได้ในระยะยาว หากคุณมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือมีปัญหาช่องปากที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข กรณีที่คุณมีฟันซ้อนเกหรือมีฟันคุดอยู่ภายในช่องปากที่ยากต่อการทำความสะอาด จำเป็นที่จะต้องเข้าพบคุณหมอมากกว่า 2 ครั้งขึ้นไปค่ะ
และนี่ก็คือ 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเข้าพบหมอฟันบ่อยๆ แต่หากคุณรู้สึกกลัวเครื่องมือทำฟันและไม่กล้าไปหมอฟันจริงๆ หมอณัฐแนะนำให้ลองหาข้อมูลคลินิกทำฟันก่อนว่ามีคลินิกไหนบริการดี มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจบ้าง จากนั้นค่อยลองทักไปขอคำปรึกษาเบื้องต้น ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความคุ้นชินและทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจที่ได้เข้ารับการรักษากับหมอฟันที่คุณไว้วางใจค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
- ฟันห่าง จัดฟันได้ไหม ทำวีเนียร์ หรืออุดฟัน แบบไหนดีกว่ากัน
- จัดฟันแล้วเหงือกร่นเกิดจากอะไร จะหายเองไหม ทำไมไม่ควรมองข้าม
- ไม่ได้เปลี่ยนยางจัดฟันนาน เป็นอะไรไหม ทำไมถึงควรเปลี่ยนตามนัด
จัดฟันที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic
หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Dental Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง
รีวิวจัดฟันกับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น
@dr.nuttakul รีวิวเคสจัดฟันใส ทำไมเลือก? ดีกว่ายังไง? #หมอณัฐคุณ #หมอฟัน #หมอฟันtiktok #คลินิกทันตกรรมทูธลักค์ #รักสุขภาพ #tiktokสายความรู้ #เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า #tiktokuni #ทําฟันขอนแก่น #จัดฟัน #จัดฟันใส #มากกว่า60วิ
ฟันคุดคืออะไร เก็บไว้ได้ไหม ทำไมบางคนไม่ต้องเอาออก
หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ฟันคุด” [...]
จัดฟันใสเด็ก ทำได้ไหม ควรเริ่มตั้งแต่อายุเท่าไหร่ดี
ในยุคที่เทคโนโลยีด้านทันตกรรมก้าวหน้าไปมาก การดูแลเรียงฟันให้ลูกน้อยตั้งแต่เยาว์วัยด้วยการจัดฟันใสนั้นมีข้อดีมากกว่าที่คุณพ่อคุณแม่คิดนะคะ [...]
รีเทนเนอร์หัก ทำยังไงดี มีวิธีดูแลและป้องกันอย่างไรบ้าง
รีเทนเนอร์หัก ฟังดูแล้วอาจรู้สึกใจหายไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ? [...]
เหล็กจัดฟันหลุดเกิดจากอะไร ต้องไปพบหมอเลยไหม
หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเหล็กจัดฟันหลุดเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ในความเป็นจริงแล้วปัญหาดังกล่าวมีสาเหตุมาจากการดูแลสุขภาพช่องปากระหว่างจัดฟันที่ไม่ดีพอ, [...]
7 เหตุผลว่าทำไมต้องจัดฟัน ที่คุณอาจเสียดายถ้ารู้ช้าไป!!
หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้องจัดฟัน? จัดฟันแล้วคุ้มไหม? [...]
ฟันบิ่น อันตรายไหม ทำไมต้องรีบแก้โดยเร็วที่สุด
ฟันบิ่น ปัญหารูปฟันไม่สมบูรณ์ที่หลายคนมักมองข้าม [...]