ใส่รีเทนเนอร์แล้วปวดฟัน หายเองได้ไหม หรือต้องเปลี่ยนรีใหม่

ใส่รีเทนเนอร์แล้วปวดฟัน

หลายคนที่จัดฟันเสร็จแล้วอาจกังวลหรือกำลังประสบปัญหาใส่รีเทนเนอร์แล้วปวดฟัน ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงแรกของการใส่หรือหลังเปลี่ยนรีเทนเนอร์ใหม่ แม้จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่มันก็จะมีระดับความเจ็บที่แตกต่างกันไป แล้วระดับไหนถือว่าปกติ ระดับไหนที่ควรพบแพทย์โดยเร็วที่สุด หมอณัฐมีคำตอบมาฝากค่ะ

ใส่รีเทนเนอร์แล้วปวดฟัน เกิดจากอะไร

1. การปรับตัวของฟันและเหงือก

เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดค่ะ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใส่รีเทนเนอร์ เนื่องจากฟันและเหงือกยังอยู่ในกระบวนการปรับตัวหลังจากการเคลื่อนที่ระหว่างการจัดฟัน รีเทนเนอร์จะช่วยคงสภาพฟันในตำแหน่งใหม่ ทำให้เกิดแรงกดเล็กน้อยที่ฟันและกระดูกรองรับ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดหน่วงๆ หรือรู้สึกตึงได้ อาการนี้มักจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่วันหรือประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากคุณใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ

2. รีเทนเนอร์ไม่พอดีหรือชำรุด

หากรีเทนเนอร์หลวมเกินไป อาจทำให้ประสิทธิภาพในการคงสภาพฟันลดลง ทำให้ฟันเคลื่อนที่เล็กน้อยและเกิดอาการปวดเมื่อใส่กลับเข้าไปใหม่ ในทางกลับกัน หากรีเทนเนอร์คับเกินไป บิดเบี้ยว ชำรุด หรือแตกหัก ก็อาจเกิดแรงกดที่มากเกินไปในบางบริเวณของฟัน ทำให้คุณปวดฟันอย่างรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเกิดแผลในช่องปากได้

3. ฟันเคลื่อนที่เนื่องจากไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์สม่ำเสมอ

เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการปวดอย่างชัดเจน หากคุณไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ฟันอาจเคลื่อนที่กลับไปยังตำแหน่งเดิมหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่หลังจากคุณกลับมาใส่รีเทนเนอร์อีกครั้ง ฟันจะถูกบีบให้กลับเข้าที่เดิม ทำให้เกิดแรงกดมหาศาลและอาการปวดที่รุนแรงมาก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวที่นานขึ้น หรือในบางกรณีอาจต้องพิจารณาการจัดฟันใหม่ได้เลยทีเดียว

4. ปัญหาช่องปากอื่นๆ

อาการปวดฟันอาจไม่ได้เกิดจากรีเทนเนอร์โดยตรง แต่อาจเกิดจากปัญหาช่องปากอื่นๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ ฟันคุดขึ้น หรือการติดเชื้อในช่องปาก อาการเหล่านี้อาจสร้างความเจ็บปวดที่สัมพันธ์กับฟันและเหงือก และอาจทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นอาการปวดที่มาจากรีเทนเนอร์ โดยคุณอาจสังเกตได้จากสัญญาณเตือนต่างๆ เช่น มีไข้ เหงือกบวมแดง หรือมีหนองอยู่ในช่องปาก ฯลฯ

อาการปวดแบบไหนถึงเป็นเรื่องปกติ แล้วแบบไหนที่ต้องกังวล?

1. อาการปวดแบบปกติ

มักเป็นลักษณะตึงๆ หน่วงๆ หรือรู้สึกเสียวฟันเล็กน้อยในช่วง 2-3 วันแรกของการใส่รีเทนเนอร์ หรือปวดหลังจากกลับมาใส่อีกครั้งหลังจากไม่ได้ใส่มาสักระยะหนึ่ง อาการปวดแบบนี้มักไม่รุนแรง ปวดแบบทนได้ และจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายไปเองภายในระยะเวลาไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ โดยไม่มีอาการอื่นๆ ตามมา

2. อาการปวดแบบที่ต้องกังวล

หากอาการปวดยังคงอยู่เป็นเวลานานเกินกว่า 1-2 สัปดาห์ หรืออาการรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งแบบมีอาการปวดเฉพาะจุด และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เหงือกบวมแดง มีเลือดออก หรือมีหนองบริเวณรอบฟัน/เหงือก มีแผลในช่องปาก หรือฟันเคลื่อนที่อย่างเห็นได้ชัด อาการเหล่านี้บ่งบอกถึงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า คุณควรพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดค่ะ

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการปวด

คุณสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้เพื่อบรรเทาอาการและป้องกันไม่ให้อาการแย่ลง สำหรับแนวทางในการดูแลตัวเองเบื้องต้น มีดังนี้ค่ะ

1. ใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ

หากอาการปวดเกิดจากการที่คุณไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำและทำให้ฟันเคลื่อนที่ไปจากเดิม การใส่รีเทนเนอร์ให้สม่ำเสมอตามคำแนะนำของทันตแพทย์จะช่วยให้ฟันค่อยๆ กลับเข้าที่ ส่งผลให้อาการปวดค่อยๆ ลดลงในเวลาต่อมา แต่หากคุณกลับมาใส่แล้วยังรู้สึกปวดมากจนทนไม่ไหว หมอณัฐแนะนำให้ลองใส่เฉพาะตอนนอนในช่วงแรก แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะเวลาที่ใส่ในแต่ละวันแทนการใส่ตลอดเวลาไปก่อนค่ะ

2. ทานยาแก้ปวด

ได้แก่ พาราเซตามอล (Paracetamol) หรือไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) เพื่อบรรเทาอาการปวด แต่ถึงอย่างไรก็ตามหมอณัฐแนะนำให้คุณปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อน เพื่อเลือกชนิดและปริมาณยาที่เหมาะสม หากทานยาจนครบแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้ไปพบทันตแพทย์จะดีที่สุดค่ะ เพราะถ้าคุณไปซื้อยามาทานเอง เสี่ยงต่อต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่เกิดจากการใช้ยาเกินขนาดด้วยได้ค่ะ

3. ประคบเย็น

การประคบเย็นบริเวณใบหน้าด้านนอกใกล้ๆ กับบริเวณที่ปวด จะช่วยลดอาการบวมและบรรเทาความเจ็บปวดได้ดีทีเดียว โดยใช้ถุงน้ำแข็งห่อด้วยผ้าขนหนูบางๆ ประคบนานครั้งละ 15-20 นาที พัก 10 นาที และทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จนกว่าอาการจะทุเลาค่ะ

4. หลีกเลี่ยงอาหารแข็งและเหนียว

ในช่วงที่มีอาการปวด หมอณัฐแนะนำให้เลี่ยงอาหารที่ต้องใช้แรงเคี้ยวมากอย่างอาหารแข็งหรืออาหารเหนียวไปก่อนนะคะ เพราะอาหารเหล่านี้จะไปเพิ่มแรงกดที่ฟันและกระตุ้นให้เกิดอาการปวดมากขึ้น ในช่วงนี้ให้ทานอาหารอ่อนๆ และเคี้ยวง่ายแทนไปก่อนค่ะ

5. รักษาความสะอาดในช่องปาก

การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี จะช่วยลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์และเศษอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุและเหงือกอักเสบ หากช่องปากสะอาด อาการปวดที่เกิดจากปัญหาสุขภาพช่องปากก็จะลดลงค่ะ

เปลี่ยนรีเทนเนอร์ใหม่เมื่อไหร่ดี?

การพิจารณาเปลี่ยนรีเทนเนอร์ใหม่เป็นสิ่งสำคัญเมื่อรีเทนเนอร์เดิมไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพช่องปาก โดยกรณีที่ควรพิจารณาเปลี่ยนรีเทนเนอร์ใหม่ ได้แก่

1. รีเทนเนอร์ชำรุด เสียหาย หรือแตกหัก

หากรีเทนเนอร์แตกหัก บิดเบี้ยว หรือชำรุด ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุหรือการใช้งานเป็นเวลานานก็ตาม อาจทำให้รีเทนเนอร์มีประสิทธิภาพลดลงและอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือบาดแผลในช่องปากได้ กรณีนี้จำเป็นต้องทำรีเทนเนอร์ใหม่ทันที

2. ฟันมีการเคลื่อนที่อย่างเห็นได้ชัด

หากพบว่าฟันของคุณเคลื่อนที่ไปจากตำแหน่งเดิมอย่างเห็นได้ชัด แม้จะใส่รีเทนเนอร์อยู่ก็ตาม นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ารีเทนเนอร์เดิมไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของฟันได้ดีพอ หรือแม้แต่การที่คุณไม่ได้ใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำจนฟันเคลื่อนที่มากเกินไป ในกรณีนี้ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ทำรีเทนเนอร์ใหม่ หรืออาจพิจารณาการรักษาอื่นๆ เช่น การจัดฟันใหม่เล็กน้อย

3. รีเทนเนอร์หลวมหรือไม่กระชับเหมือนเดิม

เมื่อคุณใช้งานรีเทนเนอร์ไปนานๆ อาจทำให้รีเทนเนอร์สึกหรอหรือเปลี่ยนรูปได้เล็กน้อย ทำให้รีเทนเนอร์ไม่กระชับกับฟันเหมือนแต่ก่อน กรณีที่รีเทนเนอร์หลวมเกินไป อาจไม่สามารถคงสภาพฟันได้ดีพอ ทำให้ฟันมีโอกาสเคลื่อนที่ไปจากเดิม การทำรีเทนเนอร์ใหม่ที่พอดีกับฟันในปัจจุบันจะช่วยให้การคงสภาพฟันมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้ว่าอาการใส่รีเทนเนอร์แล้วปวดฟันจะหายเองได้หากเป็นอาการปวดเพียงเล็กน้อย แต่หากอาการปวดยังคงอยู่เป็นเวลานานเกินสัปดาห์, มีความรุนแรงมากขึ้น หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย หมอณัฐบอกเลยว่าอย่าชะล่าใจนะคะ ให้รีบไปปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงและเข้ารับการรักษาที่เหมาะสม เพราะหากปล่อยไว้นานอาจเกิดปัญหาช่องปากอื่นๆ ตามมาจนถึงขั้นต้องเสียเวลาจัดฟันใหม่ได้เลยนะคะ

สุดท้ายนี้หากคนไข้ต้องการจัดฟันจริงๆ หมอณัฐแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกทันตกรรมที่สนใจก่อนว่า มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ทันตแพทย์มีความชำนาญและประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน แล้วตัวคลินิกเองเดินทางสะดวกไหม มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจอะไรบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคนไข้เองค่ะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดฟัน คลิก >>> จัดฟัน

บทความที่น่าสนใจ

ดูแลช่องปากที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง

ทำไมต้องทำฟันที่-Toothluck

รีวิวจัดฟันกับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น

รีวิว จัดฟัน tootkluck dental clinic