ก่อนจัดฟันใสต้องรู้อะไร เตรียมตัวอย่างไรให้การจัดฟันราบรื่น

ก่อนจัดฟันใส คนไข้จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดช่องปากอย่างละเอียด การเคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อย และการเข้ารับคำปรึกษากับทันตแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้การจัดฟันแบบใสเป็นไปอย่างราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แม้จะเป็นการเตรียมตัวง่ายๆ แต่หมอณัฐเชื่อว่าหลายๆ คนอาจละเลยหรือเตรียมตัวผิดวิธี วันนี้หมอณัฐจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจ เพื่อจะได้จัดฟันได้อย่างมั่นใจและยิ้มสวยได้ดั่งใจค่ะ

ก่อนจัดฟันใส เตรียมตัวอย่างไรบ้าง

1. ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทาง

หากคุณต้องการการรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น ได้ผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการ การปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาอย่างละเอียดเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ การพูดคุยกับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเปรียบเสมือนการที่เรามีไกด์นำทางที่จะช่วยให้เราเข้าใจทุกรายละเอียดของปัญหาช่องปากอย่างแท้จริง และวางแผนเส้นทางไปสู่รอยยิ้มในฝันได้อย่างถูกต้องค่ะ สำหรับขั้นตอนการปรึกษาทันตแพทย์มีดังนี้

• ตรวจประเมินสภาพช่องปากเบื้องต้น: ทันตแพทย์จะตรวจดูสุขภาพฟัน เหงือก และโครงสร้างขากรรไกรโดยรวม เพื่อดูว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไขก่อนการจัดฟันหรือไม่ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือฟันคุด
• ถ่ายรูปและเอกซเรย์: มีการถ่ายรูปในช่องปากและใบหน้า รวมถึงการเอกซเรย์แบบ 3 มิติ (CBCT) เพื่อให้ทันตแพทย์เห็นโครงสร้างภายในทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนการรักษา
• สแกนฟันแบบ 3 มิติ: ทันตแพทย์จะใช้เครื่องสแกนเพื่อสร้างแบบจำลองฟันดิจิทัลแบบ 3 มิติ ซึ่งจะถูกส่งไปให้ผู้ผลิตเครื่องมือจัดฟันใสเพื่อใช้ในการออกแบบ
• นำเสนอแผนการรักษาและผลลัพธ์: ทันตแพทย์จะอธิบายแผนการรักษาที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับคุณ ตั้งแต่ระยะเวลาในการรักษา จำนวนเครื่องมือ ไปจนถึงการเคลื่อนฟันในแต่ละสเต็ป และยังมีการจำลองผลลัพธ์สุดท้ายให้เห็นภาพเสมือนจริงอีกด้วยค่ะ
• ตอบคำถามและข้อสงสัย: เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่คุณจะซักถามทุกเรื่องที่กังวลใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ระยะเวลา หรือการดูแลตัวเอง เพื่อให้คุณเข้าใจและมั่นใจในแผนการรักษาอย่างเต็มที่

2. เคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อย

หลังจากที่เราปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางและวางแผนการรักษาเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ การเคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อยค่ะ เพราะการจัดฟันบนช่องปากที่ไม่สะอาดหรือมีปัญหาอยู่ก่อนแล้วอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ง่ายระหว่างการรักษา โดยเฉพาะปัญหายอดฮิตอย่างฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ เพราะเมื่อมีเครื่องมือจัดฟันอยู่ในช่องปากตลอดเวลา การทำความสะอาดให้หมดทุกซอกมุมจึงทำได้ยากขึ้น จึงมีคราบแบคทีเรียสะสมง่ายกว่าปกติ สำหรับขั้นตอนการเคลียร์ช่องปากมีดังนี้

• ขูดหินปูน: หินปูนและคราบแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามซอกฟันและขอบเหงือก คือสาเหตุหลักของโรคเหงือกอักเสบและฟันผุ การขูดหินปูนเพื่อกำจัดสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เหงือกแข็งแรงและลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาช่องปากระหว่างการจัดฟัน
• อุดฟันผุ: หากทันตแพทย์ตรวจพบฟันผุ จะต้องอุดฟันให้เรียบร้อยก่อน เพราะหากปล่อยไว้ รูผุอาจลุกลามและทำให้เกิดอาการปวดระหว่างการเคลื่อนฟันได้
• ถอนฟันคุด: ฟันคุดที่อยู่ผิดตำแหน่งอาจไปเบียดกับฟันซี่อื่น ทำให้ฟันล้ม หรือขัดขวางการเคลื่อนฟันตามแผนที่วางไว้ การถอนฟันคุดจึงช่วยให้การจัดฟันเป็นไปอย่างราบรื่น
• รักษารากฟัน: กรณีที่ฟันผุลึกจนถึงโพรงประสาทฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำให้รักษารากฟันเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและเก็บรักษาฟันซี่นั้นไว้ ก่อนที่จะเริ่มต้นจัดฟัน

3. ถ่ายรูปและสแกนช่องปาก

หากคุณเคลียร์ช่องปากเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการวางแผนการรักษา ซึ่งขั้นตอนนี้สำคัญมากค่ะ เพราะจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการเคลื่อนฟันทั้งหมด และช่วยให้ทันตแพทย์ออกแบบเครื่องมือได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น การถ่ายรูปและสแกนช่องปากเพื่อสร้างพิมพ์ฟันดิจิทัลเปรียบเสมือนการสร้างแผนที่สำหรับการเดินทางสู่รอยยิ้มที่สวยงามค่ะ โดยทันตแพทย์จะเก็บข้อมูลช่องปากของคุณอย่างละเอียดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อนำไปใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบการเคลื่อนฟันในแต่ละขั้นตอน และสร้างชุดเครื่องมือจัดฟันใสที่พอดีกับฟันของคุณที่สุด สำหรับขั้นตอนการถ่ายรูปและสแกนช่องปากมีรายละเอียดดังนี้ค่ะ

• ถ่ายรูปในช่องปากและใบหน้า: ทันตแพทย์จะถ่ายรูปใบหน้าของคุณจากมุมต่างๆ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และตอนยิ้ม เพื่อใช้ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างฟันกับรูปหน้า นอกจากนี้ยังมีการถ่ายรูปภายในช่องปากอย่างละเอียด เพื่อดูสภาพฟันและเหงือกก่อนเริ่มการรักษา
• เอกซเรย์: เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ทันตแพทย์จะเอกซเรย์แบบพานอรามาและเอกซเรย์เซฟาโลเมตริก ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นโครงสร้างกระดูกขากรรไกร ฟันที่ยังไม่ขึ้น และรากฟันที่อยู่ใต้เหงือกได้
• สแกนฟันแบบ 3 มิติ: ขั้นตอนนี้คือหัวใจสำคัญของการจัดฟันใสเลยค่ะ ทันตแพทย์จะใช้เครื่องสแกนในช่องปากเพื่อสร้างภาพจำลองฟันดิจิทัลแบบ 3 มิติที่แม่นยำอย่างยิ่ง โดยใช้เวลาไม่นานและไม่ต้องใช้พิมพ์ฟันแบบเดิมๆ ที่ทำให้รู้สึกอึดอัดอีกต่อไปค่ะ

ส่วนข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากการถ่ายรูปและสแกนช่องปากจะถูกนำไปใช้ออกแบบแผนการรักษาเสมือนจริง (ClinCheck) ซึ่งคุณจะได้เห็นภาพจำลองของการเคลื่อนฟันตั้งแต่เริ่มจนถึงผลลัพธ์สุดท้ายเลยค่ะ

4. ใช้เวลาวางแผนการรักษา

แม้ว่าขั้นตอนนี้จะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับช่องปากโดยตรง แต่ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากนะคะ การรับฟังแผนการรักษาจะช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการจัดฟันทั้งหมดและเพิ่มความมั่นใจให้คุณก่อนตัดสินใจเริ่มต้นการรักษาค่ะ แผนการรักษาที่ทันตแพทย์นำเสนอเปรียบเสมือนภาพยนตร์สั้นๆ ที่เล่าเรื่องราวการเดินทางของฟันคุณตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงวันสุดท้ายค่ะ หลังจากได้ข้อมูลจากการสแกนฟันแล้ว ทันตแพทย์จะใช้เวลาประมาณ 5-14 วัน ในการออกแบบและวางแผนการรักษา สำหรับหมอณัฐแล้วจะจัดทำแผนให้คนไข้เลือกพิจารณา 2-3 แผน เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนและเลือกแผนที่ถูกใจที่สุด และเมื่อคุณเลือกแผนที่ต้องการแล้ว เราจะดำเนินการสั่งผลิตเครื่องมือจัดฟันใส โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์

สรุปแล้ว จะใช้เวลาตั้งแต่เริ่มวางแผนไปจนถึงได้รับเครื่องมือจัดฟันใสประมาณ 1 เดือนครึ่ง สำหรับเคสที่ไม่เร่งด่วน แต่ในกรณีที่เร่งด่วนอาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือนค่ะ

5. ติดอุปกรณ์เสริม (Attachment)

ในหลายๆ เคส การจัดฟันใสจำเป็นต้องติด Attachment หรืออุปกรณ์เสริมขนาดเล็กสีเหมือนฟัน บนผิวฟันค่ะ อุปกรณ์เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนที่จับยึดให้เครื่องมือจัดฟันใสเคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การติด Attachment จะทำให้การเคลื่อนฟันเป็นไปตามแผนที่วางไว้ได้แม่นยำยิ่งขึ้นค่ะ

6. มาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็ก

โดยทั่วไปแล้ว ในระหว่างการจัดฟันใส หมอณัฐจะนัดให้คนไข้มาพบเพื่อตรวจเช็กความเรียบร้อยของเครื่องมือและการเคลื่อนฟัน ทุกๆ 3 เดือน ค่ะ อย่างไรก็ตาม สำหรับบางเคสที่ไม่ซับซ้อนมาก หรือในบางกรณีที่คนไข้ไม่สะดวกเดินทางเข้ามาที่คลินิก ก็สามารถนัดหมายและรับเครื่องมือชุดถัดไปเพื่อนำกลับไปใส่เองได้ค่ะ ทั้งนี้ การเข้าพบทันตแพทย์สม่ำเสมอจะช่วยให้ผลลัพธ์การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงตามแผนที่วางไว้มากที่สุดค่ะ

สุดท้ายนี้ หมอณัฐหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนที่กำลังวางแผนจัดฟันใส และช่วยให้การเตรียมตัวก่อนจัดฟันใสเป็นไปอย่างราบรื่นนะคะ เพราะการมีสุขภาพช่องปากที่ดีและการจัดฟันที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องของโชค แต่คือการเตรียมพร้อมที่ถูกวิธีค่ะ หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามเข้ามาได้ที่ช่องทางต่างๆ ของหมอณัฐได้เลยนะคะ

คลิปวิดีโอเพิ่มเติม:

@dr.nuttakul

3 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนการจัดฟันใส Invisalign #หมอณัฐคุณ #คลินิกทันตกรรมทูธลักค์ #toothluck #จัดฟันใส #ทําฟันขอนแก่น #ทําฟันmrtแยกติวานนท์ #รักสุขภาพ #tiktokสายความรู้ #รู้จากtiktok #tiktokuni

♬ เสียงต้นฉบับ – Dr.Nuttakul, Dent – Dr.Nuttakul, Dent

บทความที่น่าสนใจ

• จัดฟัน Invisalign คืออะไร แตกต่างจากการจัดฟันทั่วไปอย่างไร
• Invisalign Lite: จัดฟันเร่งด่วน ทำไมต้องใช้เครื่องมือชุดนี้
• Invisalign Moderate เหมาะกับใคร แก้ปัญหาฟันแบบไหนได้บ้าง

จัดฟันใสที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Toothluck Dental Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง

รีวิวจัดฟันกับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น

@dr.nuttakul

รีวิวเคสจัดฟันใส ทำไมเลือก? ดีกว่ายังไง? #หมอณัฐคุณ #หมอฟัน #หมอฟันtiktok #คลินิกทันตกรรมทูธลักค์ #รักสุขภาพ #tiktokสายความรู้ #เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า #tiktokuni #ทําฟันขอนแก่น #จัดฟัน #จัดฟันใส #มากกว่า60วิ

♬ Cute song of fun scene – Yoshiki ARA

@dr.nuttakul

รีวิวเคส จัดฟันแก้รูปปาก 💗 #หมอณัฐคุณ #คลินิกทันตกรรมทูธลักค์ #toothluck #ทําฟันขอนแก่น #ทําฟันmrtแยกติวานนท์ #จัดฟัน #รักสุขภาพ #tiktokสายความรู้ #รู้จากtiktok #tiktokunit

♬ เสียงต้นฉบับ – Dr.Nuttakul, Dent – Dr.Nuttakul, Dent