บริการทำรีเทนเนอร์ (Retainers) เครื่องมือคงสภาพฟัน ทำเร็ว ฟันสวยนาน

Tooth Luck Dental Clinic บริการรับทำ รีเทนเนอร์ หรือเครื่องมือคงสภาพฟันเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันที่จัดสำเร็จแล้วเสียหายหลังถอดเครื่องมือออก เพราะต่อให้คุณจะเลือกเครื่องมือจัดฟันที่ดีแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นคือการดูแลฟันหลังการจัดฟันด้วยการใส่รีเทนเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาสำหรับป้องกันการเคลื่อนตัวของฟันให้ตรงไปตามแผนการรักษาของทันตแพทย์ และด้วยความที่รีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์ที่ต้องใส่เข้าไปในปาก หากคนไข้ไม่รู้วิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง หลงลืมหรือละเลยการใส่รีเทนเนอร์เป็นเวลานาน อาจทำให้ฟันเคลื่อนตัวไม่ตรงตามแผนการรักษา หรืออาจทำให้รีเทนเนอร์มีปัญหาและต้องเปลี่ยนใหม่ไปเรื่อย ๆ ผลลัพธ์จากการจัดฟันจึงเห็นผลช้าลงด้วย
รีเทนเนอร์ (Retainer) คืออะไร
รีเทนเนอร์ (Retainer) เป็นอุปกรณ์สำคัญมากๆ ในการรักษาทางทันตกรรมจัดฟันค่ะ หมอมักจะอธิบายให้คนไข้ฟังว่ามันเป็น “อุปกรณ์คงสภาพฟัน” ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนตัวกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิมหลังจากที่เราถอดเครื่องมือจัดฟันออกแล้ว
จริงๆ แล้ว หลายคนเข้าใจผิดว่าพอจัดฟันเสร็จและถอดเหล็กออกแล้ว ฟันจะอยู่ในตำแหน่งใหม่ตลอดไป แต่ความจริงคือธรรมชาติของร่างกายเราจะพยายามดึงฟันกลับไปยังตำแหน่งเดิม โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีแรกหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน ดังนั้นรีเทนเนอร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยต้านแรงดึงนั้นและรักษาตำแหน่งฟันที่สวยงามเอาไว้ค่ะ
รีเทนเนอร์จะถูกออกแบบและผลิตขึ้นมาเฉพาะสำหรับคนไข้แต่ละรายเลย ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ เพราะต้องพอดีกับฟันของแต่ละคนพอดี โดยทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำแบบจำลองฟันหลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันเสร็จแล้ว และนำไปผลิตรีเทนเนอร์ต่อไป
รีเทนเนอร์มีแบบไหนบ้าง
1. รีเทนเนอร์แบบใส (Clear Retainer)
เป็นรีเทนเนอร์ชนิดถอดได้ที่ทำมาจากพลาสติกประเภท thermoplastic polyurethane หรือ PET-G ซึ่งเป็นวัสดุเกรดทางการแพทย์ที่มีความใส ล้อมรอบฟันทั้งด้านนอกและด้านในค่ะ ตัวรีเทนเนอร์มีความหนาประมาณ 0.75-1.5 มิลลิเมตร ซึ่งความหนาจะต่างกันไปตามบริษัทผู้ผลิตและวัตถุประสงค์การใช้งาน แบบที่บางกว่าจะสบายปากมากกว่า แต่ก็อาจไม่ทนทานเท่าแบบหนานะคะ
ข้อดีของรีเทนเนอร์ชนิดนี้คือความใสที่คนอื่นแทบมองไม่เห็นเวลาเราใส่ ไม่ค่อยรบกวนการพูดของคนไข้ มีขนาดบางกว่า และยังล็อกตำแหน่งฟันได้ดีกว่ารีเทนเนอร์แบบโลหะเลยค่ะ ถ้าดูแลดีๆ ก็อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 2 ปี เลยทีเดียว
แต่ข้อเสียก็คือ ไม่เหมาะกับคนที่นอนกัดฟันประจำหรือชอบดื่มน้ำร้อนตอนใส่รีเทนเนอร์นะคะ เพราะความร้อนจะทำให้พลาสติกเสียรูปทรงและพังเร็วมาก นอกจากนี้บางคนก็รู้สึกเหมือนมีน้ำลายขังในรีเทนเนอร์ตลอดเวลา และมันก็มีโอกาสฉีกขาดง่ายกว่าแบบโลหะด้วยค่ะ
2. รีเทนเนอร์แบบลวด (Hawley Retainer)
อันนี้เป็นรีเทนเนอร์ชนิดถอดได้ที่หมอเรียกกันว่า “รีเทนเนอร์ฮอว์ลีย์” ทำมาจากอะคริลิกแข็งที่สัมผัสกับเพดานปากหรือด้านในของฟันล่าง และมีลวดที่โค้งรอบฟันเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนที่ค่ะ
ด้วยความที่ทำจากอะคริลิกและลวดโลหะ มันเลยทนมากกว่าแบบใส อยู่ได้ยาวถึง 5-10 ปีเลยนะคะ และหลายคนรู้สึกว่าใส่สบายกว่าแบบใส เพราะไม่มีน้ำลายขังอยู่ในรีเทนเนอร์ แต่ช่วงแรกๆ อาจรู้สึกขัดๆ ในปากหน่อย และพูดไม่ชัดในช่วงวันสองวันแรกค่ะ
ข้อดีอีกอย่างคือเราปรับแต่งให้สวยได้ตามใจชอบ เช่น ใส่สติกเกอร์หรือเลือกอะคริลิกสีสวยๆ ทำให้เด็กๆ ชอบมาก แต่ข้อเสียก็คือคนอื่นเห็นชัดว่าเราใส่รีเทนเนอร์ โดยเฉพาะลวดที่พาดผ่านหน้าฟันเลยค่ะ

3. รีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Fixed Retainer)
อันนี้เป็นรีเทนเนอร์ที่ถอดไม่ได้ ทำจากลวดแข็งที่หมอดัดให้โค้งตามแนวฟัน แล้วติดไว้ที่ด้านหลังของฟันหน้าทั้งบนและล่าง ใช้กาวยึดติดแบบเดียวกับที่ใช้ติดเหล็กจัดฟันเลยค่ะ
ข้อดีคือคนอื่นแทบมองไม่เห็นเลยว่าเราใส่รีเทนเนอร์ เพราะมันซ่อนอยู่ด้านหลังฟัน แถมยังแข็งแรงทนทานมาก อยู่ได้ประมาณ 3-10 ปี (ถ้าไม่หลุดนะคะ) และไม่ต้องกังวลว่าจะลืมใส่หรือทำหาย เพราะมันติดอยู่กับฟันตลอดเวลาอยู่แล้ว
แต่ข้อเสียที่หมอต้องเตือนไว้ก็คือ การทำความสะอาดยากมากๆ ค่ะ ต้องใช้ไหมขัดฟันแบบพิเศษหรือแปรงซอกฟันในการทำความสะอาด ถ้าขี้เกียจแปรงหรือทำความสะอาดไม่ดี ก็เสี่ยงต่อการเกิดหินปูน เหงือกอักเสบ หรือฟันผุตรงที่ติดรีเทนเนอร์ได้ง่ายเลยค่ะ
4. รีเทนเนอร์ Vivera (Vivera Retainer)
นี่เป็นรีเทนเนอร์รุ่นไฮเอนด์ค่ะ ผลิตโดยบริษัท Align Technology ซึ่งเป็นบริษัทเดียวกับที่ทำอุปกรณ์จัดฟันแบบใส Invisalign เลย ใช้เทคโนโลยีสแกน 3D และการพิมพ์แบบดิจิทัลในการผลิต ทำให้เนียนกว่าและพอดีกับฟันมากๆ
รีเทนเนอร์ Vivera แข็งแรงกว่ารีเทนเนอร์แบบใสทั่วไปถึง 30% เลยนะคะ ติดสีจากกาแฟหรือน้ำชาน้อยกว่า และมีความพอดีกับฟันสูงมาก ทำให้อยู่ได้นานถึง 3-5 ปี โดยปกติจะมาเป็นเซ็ต 3-4 ชิ้นเลย เราจะได้มีสำรองเวลาอันเก่าเสียหรือหาย
ข้อเสียก็คือราคาแพงกว่ารีเทนเนอร์แบบอื่นเยอะเลยค่ะ และก็ยังมีข้อจำกัดเหมือนรีเทนเนอร์แบบใสทั่วไป คือไม่เหมาะกับคนที่ชอบกัดฟันตอนนอนหรือกัดแรงๆ นะคะ
การดูแลรีเทนเนอร์
หมอขอแนะนำวิธีดูแลรีเทนเนอร์แต่ละแบบนิดนึงนะคะ:
- รีเทนเนอร์แบบใสและ Vivera: ล้างด้วยน้ำเย็นทุกครั้งที่ถอด แปรงเบาๆ ด้วยแปรงขนนุ่มโดยไม่ใช้ยาสีฟัน (ยาสีฟันจะทำให้เกิดรอยขีดข่วนและขุ่น) แช่ในน้ำยาทำความสะอาดพิเศษสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง อย่าแช่ในน้ำร้อนหรือน้ำยาฟอกขาวเด็ดขาดนะคะ
- รีเทนเนอร์แบบลวด: ล้างทุกครั้งที่ถอด แปรงด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มชุบยาสีฟันนิดหน่อย หรือจะใช้น้ำยาทำความสะอาดเฉพาะก็ได้ค่ะ
- รีเทนเนอร์แบบติดแน่น: ต้องแปรงให้สะอาดทุกซอกทุกมุมเลย ใช้แปรงซอกฟันหรือไหมขัดฟันพิเศษที่มีปลายแข็ง (floss threader) ช่วย และควรไปให้หมอตรวจทุก 6 เดือนว่ายังติดแน่นดีไหม มีหินปูนสะสมมากไหมนะคะ
ขั้นตอนการใส่และถอดรีเทนเนอร์
หากคุณไม่เคยใส่รีเทนเนอร์มาก่อน อาจจะงงนิดหน่อยว่าต้องใส่อย่างไร หมอเข้าใจค่ะ ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่ารีเทนเนอร์มีทั้งหมด 2 ชิ้น คือชิ้นบนสำหรับฟันบน และชิ้นล่างสำหรับฟันล่าง การใส่ไม่ได้ยากอย่างที่คิดค่ะ แค่ต้องสังเกต 2 จุดสำคัญ
จุดแรกคือส่วนพลาสติกหรืออะคริลิก (ขึ้นอยู่กับประเภทของรีเทนเนอร์) ส่วนนี้ต้องใส่เข้าไปด้านในของฟัน และจุดที่สองคือส่วนลวด ต้องใส่ไว้ด้านนอกของฟันนะคะ โดยมีวิธีใส่ดังนี้:
หันรีเทนเนอร์ที่เป็นโค้งคล้ายรูปตัว U ให้ชี้ออกนอกปาก แล้วค่อยๆ กดลงบนฟันเบาๆ เพื่อให้รีเทนเนอร์ล็อกกับฟัน บางครั้งคุณอาจได้ยินเสียงคลิกเล็กๆ หลังจากกดเข้าที่แล้ว
ลองใช้นิ้วกดที่ด้านในฟันเพื่อตรวจสอบว่ารีเทนเนอร์พอดีกับด้านในของฟันหรือไม่ ถ้าใส่แล้วรู้สึกเจ็บมากผิดปกติ ให้รีบมาพบหมอนะคะ เพื่อปรับรีเทนเนอร์ให้พอดีกับฟันของคุณ
วิธีถอดรีเทนเนอร์
การถอดรีเทนเนอร์ไม่ควรยากหรือเจ็บเกินไปค่ะ หมอแนะนำให้จับด้านข้างของรีเทนเนอร์ แล้วค่อยๆ ขยับซ้ายขวาเบาๆ สลับกันไปมาจนรีเทนเนอร์หลุดออกมาเอง
สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือการถอดโดยยกขึ้นมาทั้ง 2 ฝั่งพร้อมกัน เพราะแรงดึงแบบนี้อาจทำให้รีเทนเนอร์บิดเบี้ยวผิดรูป และอาจต้องทำรีเทนเนอร์ชิ้นใหม่ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นนะคะ
ช่วงแรกๆ ที่เพิ่งเริ่มใส่รีเทนเนอร์ อาจจะรู้สึกว่าใส่และถอดยากหน่อย แต่หลังจากที่คุณชินแล้ว จะสามารถใส่และถอดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากค่ะ เหมือนตอนที่เราเริ่มใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรกๆ นั่นแหละค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ "รีเทนเนอร์"
ตอบเลยนะคะว่า ใช่! หลังจากถอดเครื่องจัดฟันออก ทุกคนต้องใส่รีเทนเนอร์ค่ะ ไม่มีข้อยกเว้นเลย
หมอเจอหลายคนที่คิดว่าพอจัดฟันเสร็จแล้ว ฟันของเราจะอยู่ในตำแหน่งใหม่ตลอดไป แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยค่ะ ธรรมชาติของร่างกายเรามีแรงดึงที่พยายามจะดึงฟันกลับไปสู่ตำแหน่งเดิมตลอดเวลา โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีแรกหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน
หมอเคยมีคนไข้บางรายที่ปฏิเสธการใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟัน ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น รำคาญ ไม่สะดวก หรือคิดว่าฟันตัวเองไม่น่าจะเคลื่อน แต่ผลลัพธ์คือฟันเริ่มเคลื่อนกลับภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน และสุดท้ายก็ต้องกลับมาจัดฟันใหม่ทั้งหมด ซึ่งเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่าการใส่รีเทนเนอร์หลายเท่า
เหตุผลที่ต้องใส่รีเทนเนอร์ทุกคนมีอยู่หลายข้อค่ะ:
- ฟันของเรามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนกลับสู่ตำแหน่งเดิมตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ หลังถอดเครื่องมือจัดฟัน
- เนื้อเยื่อรอบๆ ฟันต้องการเวลาในการปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งใหม่ของฟัน ซึ่งอาจใช้เวลานานถึง 1-2 ปี
- ร่างกายของเรายังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต แม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม ทำให้มีแรงกระทำต่อตำแหน่งของฟันตลอดเวลา
- บางคนมีนิสัยบางอย่าง เช่น การนอนกัดฟัน การใช้ลิ้นดันฟัน หรือนิสัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้ฟันเคลื่อนตัวได้ง่าย
ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์นั้น ทันตแพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใส่ตลอดเวลา (ยกเว้นตอนกินอาหารและแปรงฟัน) ในช่วง 3-6 เดือนแรก หลังจากนั้นอาจลดลงเหลือใส่เฉพาะตอนนอนอีก 1-2 ปี
แต่ที่น่าสนใจคือ คนไข้หลายคนที่ใส่รีเทนเนอร์เฉพาะตอนนอนอย่างสม่ำเสมอไปตลอดชีวิต จะรักษาผลการจัดฟันได้ดีที่สุด และไม่ต้องกลับมาแก้ไขในอนาคตค่ะ
สรุปแล้ว ถ้าคุณได้ลงทุนทั้งเวลาและเงินไปกับการจัดฟัน การใส่รีเทนเนอร์คือขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญมากๆ ที่จะช่วยรักษาผลลัพธ์ที่สวยงามไว้ได้ยาวนาน อย่ายอมเสียเวลาและค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปเพราะความขี้เกียจหรือความรำคาญในการใส่รีเทนเนอร์เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวันนะคะ
หลังจัดฟันต้องใส่รีเทนเนอร์กี่ปี
คำถามนี้หมอเจอบ่อยมากๆ ค่ะ และต้องบอกตรงๆ ว่าคำตอบที่ถูกต้องที่สุดคือ... "ตลอดชีวิต" นั่นแหละค่ะ!
ฟังแล้วอาจจะตกใจ แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะรูปแบบการใส่จะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลา โดยทั่วไปแล้ว ทันตแพทย์จะแนะนำการใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันแบบนี้:
- ช่วงแรก (3-6 เดือน): ใส่ตลอดเวลา ยกเว้นตอนทานอาหารและแปรงฟัน รวมแล้วประมาณ 20-22 ชั่วโมงต่อวัน นี่เป็นช่วงที่สำคัญมากเพราะฟันยังพยายามจะเคลื่อนกลับไปตำแหน่งเดิมมากที่สุด
- ช่วงที่สอง (6 เดือน - 1 ปี): ลดลงเหลือใส่เฉพาะตอนนอนและช่วงอยู่บ้าน ประมาณ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน
- ช่วงที่สาม (1-2 ปี): ใส่เฉพาะตอนนอน ประมาณ 8-10 ชั่วโมงต่อวัน
หลังจากผ่านไป 2 ปี: หมอส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใส่เฉพาะตอนนอนอย่างน้อย 3-4 คืนต่อสัปดาห์ ไปตลอด หรือเท่าที่จะทำได้
ที่หมอบอกว่าควรใส่ตลอดชีวิตนั้น เพราะฟันของเรามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนตัวไปตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ช่วงแรกๆ หลังถอดเครื่องมือจัดฟันเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อายุที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่นิสัยต่างๆ เช่น การนอนกัดฟัน ล้วนส่งผลให้ฟันเคลื่อนตัวได้ทั้งนั้น
หมอเคยมีคนไข้หลายคนที่ใส่รีเทนเนอร์อย่างดีในช่วง 1-2 ปีแรก แล้วค่อยๆ เลิกใส่ไป พอผ่านไป 5-10 ปี ก็กลับมาด้วยปัญหาฟันเริ่มซ้อนเก อีกแล้ว โดยเฉพาะฟันหน้าล่างซึ่งมักจะซ้อนกันได้ง่ายที่สุด ในทางกลับกัน คนไข้ที่ยังคงใส่รีเทนเนอร์ตอนนอนอย่างสม่ำเสมอแม้จะผ่านไปหลายปี ฟันส่วนใหญ่ยังคงเรียงสวยอยู่เหมือนเดิม
ถ้าคุณรู้สึกรำคาญหรือไม่อยากใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ไปตลอด อีกทางเลือกหนึ่งคือการทำรีเทนเนอร์แบบติดแน่น (Fixed Retainer) ซึ่งจะติดลวดไว้ด้านหลังของฟันหน้าถาวร จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมใส่ แต่ก็ต้องระวังเรื่องการทำความสะอาดมากขึ้นด้วยนะคะ
สุดท้ายนี้ หมออยากบอกว่าการใส่รีเทนเนอร์คือการลงทุนระยะยาวเพื่อรักษารอยยิ้มสวยที่คุณได้ลงทุนทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดฟันมา อย่าเสียดายความพยายามในการใส่รีเทนเนอร์วันละไม่กี่ชั่วโมง เพื่อแลกกับรอยยิ้มสวยที่อยู่กับคุณไปตลอดชีวิตนะคะ
ควรเลือกรีเทนเนอร์แบบไหนดี
การเลือกรีเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวค่ะ ซึ่งรีเทนเนอร์แต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป เช่น
- รีเทนเนอร์แบบใส: เหมาะกับคนที่เน้นความสวยงาม ไม่อยากให้คนอื่นเห็น แต่อายุการใช้งานสั้นกว่า (1-2 ปี) และไม่เหมาะกับคนที่นอนกัดฟัน
- รีเทนเนอร์แบบลวด: ทนทานมากกว่า (5-10 ปี) แต่เห็นชัดเวลาใส่ เหมาะกับคนที่ต้องการความคงทนและซ่อมแซมได้ง่าย
- รีเทนเนอร์แบบติดแน่น: ไม่ต้องคอยถอดใส่ คนอื่นมองไม่เห็น แต่ทำความสะอาดยาก เหมาะกับคนที่กลัวลืมใส่หรือทำหาย
- Vivera: คุณภาพดีที่สุด ทนทานกว่าแบบใสทั่วไป แต่ราคาแพงกว่า
ใส่รีเทนเนอร์กินอะไรได้บ้าง
ความจริงแล้ว คุณไม่ควรกินอะไรขณะใส่รีเทนเนอร์เลยค่ะ! รีเทนเนอร์แบบถอดได้ (ทั้งแบบใสและแบบลวด) ต้องถอดออกทุกครั้งก่อนรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มใดๆ ยกเว้นน้ำเปล่าเท่านั้น เพราะการกินอาหารขณะใส่รีเทนเนอร์อาจทำให้...
- รีเทนเนอร์แตกหักหรือเสียรูปทรงได้
- เกิดการสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรีย
- เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และคราบสกปรก
- เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ
สำหรับรีเทนเนอร์แบบติดแน่น คุณสามารถกินอาหารได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งหรือเหนียวมากๆ เช่น ข้าวโพดคั่ว ถั่ว หมากฝรั่ง เพราะอาจทำให้รีเทนเนอร์หลุดหรือเสียหายได้ และควรทำความสะอาดอย่างดีหลังรับประทานอาหารทุกครั้งค่ะ
ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์เป็นไรไหม
ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์ ฟันจะค่อยๆ เคลื่อนกลับไปสู่ตำแหน่งเดิมแน่นอนค่ะ!
ฟันเราจะเริ่มเคลื่อนตัวเร็วมากในช่วงแรกหลังถอดเครื่องมือจัดฟัน บางคนอาจสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ภายในเพียง 1-2 สัปดาห์ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์เลย โดยเฉพาะฟันหน้าล่างที่มักจะกลับมาซ้อนเกได้เร็วที่สุด
นี่คือสาเหตุที่หมอเน้นย้ำนักหนาว่าการใส่รีเทนเนอร์สำคัญมาก เพราะคุณได้ลงทุนทั้งเวลาและเงินไปกับการจัดฟัน บางคนจัดฟันนานเป็นปีๆ และเสียค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท การไม่ใส่รีเทนเนอร์คือการปล่อยให้การลงทุนทั้งหมดนั้นสูญเปล่า
ถ้าคุณหยุดใส่รีเทนเนอร์ไปพักหนึ่งแล้วฟันเริ่มเคลื่อน คุณอาจจะต้องกลับไปจัดฟันใหม่อีกครั้ง ซึ่งเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่าการใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอหลายเท่าค่ะ
ขอแนะนำว่าถ้ารู้สึกรำคาญกับการใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ ให้ปรึกษาทันตแพทย์เกี่ยวกับการทำรีเทนเนอร์แบบติดแน่นแทน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมใส่นะคะ
ไม่ได้ค่ะ รีเทนเนอร์ไม่สามารถใส่แทนการจัดฟันได้ เพราะรีเทนเนอร์ถูกออกแบบมาเพื่อคงสภาพฟันหลังการจัดฟันเท่านั้น ไม่ได้มีแรงพอที่จะเคลื่อนฟันให้เข้าที่ได้เหมือนเครื่องมือจัดฟัน รีเทนเนอร์ทำหน้าที่แค่รักษาตำแหน่งฟันที่ได้รับการจัดเรียงมาแล้วให้อยู่นิ่งๆ
ถ้าคุณอยากให้ฟันเรียงสวย แต่ไม่อยากใส่เหล็กจัดฟันแบบดั้งเดิม คุณมีทางเลือกอื่นๆ เช่น:
การจัดฟันแบบใส (Invisalign) ที่ใช้พลาสติกใสคล้ายรีเทนเนอร์ แต่ออกแบบให้มีแรงเคลื่อนฟันได้
การจัดฟันแบบลิงกวล (Lingual Braces) ที่ติดเครื่องมือไว้ด้านในของฟันทำให้มองไม่เห็นจากภายนอก
การทำวีเนียร์ (Veneers) ในกรณีที่ฟันไม่ซ้อนเกมาก เป็นการติดแผ่นวัสดุบางๆ ที่ด้านหน้าฟันเพื่อให้ดูเรียงสวย
ถ้าคุณกังวลเรื่องการมองเห็นของเครื่องมือจัดฟัน แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเพื่อหาทางเลือกที่เหมาะกับคุณค่ะ
รีเทนเนอร์แฟชั่นพวกนี้ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์จริงๆ แต่เป็นแค่แฟชั่นเพื่อความสวยงามชั่วคราว เช่น ใส่ถ่ายรูป หรือไปงานปาร์ตี้ คุณสามารถซื้อมาใส่ได้ แต่หมอไม่แนะนำให้ใส่เป็นประจำหรือใส่เป็นเวลานานๆ เลยค่ะ เพราะมีข้อเสียและอันตรายหลายอย่าง เช่น
อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือกและเนื้อเยื่อในช่องปาก เพราะไม่ได้ทำขึ้นเฉพาะสำหรับคุณ
วัสดุที่ใช้อาจไม่ปลอดภัย ไม่ผ่านมาตรฐานทางการแพทย์ และอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ถ้าใส่นานๆ อาจทำให้ฟันเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง หรือเกิดปัญหาการสบฟันได้
เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบหรือฟันผุ
หมอเคยเจอคนไข้ที่ใช้ฟันปลอมแฟชั่นพวกนี้แล้วเกิดปัญหาเหงือกอักเสบรุนแรง หรือบางคนก็มีแผลในปากจากขอบที่คมของชิ้นงานที่ไม่ได้คุณภาพ ยังไงให้ปรึกษาทันตแพทย์ดีกว่าการซื้อรีเทนเนอร์แฟชั่นมาใส่นะคะ
การเลือกสีรีเทนเนอร์เป็นเรื่องสนุกที่ช่วยให้คุณแสดงความเป็นตัวเองได้ค่ะ ซึ่งหมอก็ชอบนะคะ เวลาที่เห็นคนไข้ได้เลือกสีที่ชอบกัน แต่ต้องเข้าใจก่อนว่าเลือกสีได้เฉพาะรีเทนเนอร์แบบลวด (Hawley Retainer) เท่านั้นนะคะ ส่วนแบบใสจะเป็นแบบใสใสไปเลย
สีที่คนไข้ของหมอเลือกบ่อยและดูสวยมีดังนี้ค่ะ:
- สีพาสเทล เช่น ชมพูอ่อน ม่วงอ่อน ฟ้าอ่อน ให้ลุคน่ารักละมุน ดูอ่อนหวาน
- สีสดใส เช่น แดง น้ำเงิน เขียว ม่วง ดูสนุกและมีชีวิตชีวา
- สีแฟนซี เช่น สีเรืองแสง สีมุก สีรุ้ง หรือสีที่มีกลิตเตอร์ผสม ดูโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
- สีทูโทน คือใช้สองสีในรีเทนเนอร์ชิ้นเดียวกัน เช่น ชมพู-ม่วง หรือฟ้า-น้ำเงิน
วัยรุ่นมักชอบเลือกสีตามทีมกีฬาที่ชื่นชอบ หรือบางคนก็เลือกสีตามเทศกาล เช่น แดง-เขียวช่วงคริสต์มาส
แต่ถ้าคุณต้องการแบบที่ดูเป็นผู้ใหญ่หรือเรียบหรู อาจเลือกสีใสหรือสีเนื้อที่กลมกลืนกับสีเพดานปาก จะทำให้มองเห็นน้อยกว่าค่ะ
สุดท้ายนี้ คุณสามารถติดสติกเกอร์หรือลวดลายเก๋ๆ ลงไปบนรีเทนเนอร์ได้อีกด้วย ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำใครค่ะ!
สรุปสุดท้ายเกี่ยวกับรีเทนเนอร์
รีเทนเนอร์เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยคงสภาพฟันหลังการจัดฟันค่ะ มีหลายประเภท ทั้งแบบใสที่มองไม่เห็น แบบลวดที่ทนทาน และแบบติดแน่นที่ไม่ต้องคอยถอดใส่ แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
การใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน ช่วยให้ฟันไม่กลับไปซ้อนเกเหมือนเดิม โดยในช่วงแรกต้องใส่เกือบตลอดเวลา ต่อมาจะลดลงเหลือเฉพาะตอนนอน และแนะนำให้ใส่ตอนนอนต่อไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิตเพื่อรักษาผลลัพธ์ที่สวยงาม
ถ้าคุณกำลังจัดฟันอยู่ กำลังจะถอดเครื่องมือจัดฟัน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับรีเทนเนอร์ หมอณัฐยินดีให้คำปรึกษาค่ะ คุณสามารถนัดหมายเพื่อรับคำแนะนำเฉพาะบุคคลที่เหมาะกับสภาพฟันและไลฟ์สไตล์ของคุณ
ติดต่อคลินิกได้ที่ TOOTH LUCK DENTAL CLINIC เพื่อนัดหมายได้เลยนะคะ หมอจะช่วยให้คุณเลือกรีเทนเนอร์ที่เหมาะสมและดูแลรอยยิ้มสวยของคุณให้อยู่กับคุณไปนานๆ ค่ะ