แม้ว่าปัจจุบันจะมีทางเลือกในการจัดฟันมากมาย แต่หนึ่งในรูปแบบการจัดฟันยอดนิยมสำหรับใครหลายคนคือการจัดฟันใส หรือจัดฟันอินวิสไลน์ (Invisalign) เนื่องจากการจัดฟันใสจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คนไข้ทั้งในเรื่องของการใช้งานที่ไม่ยุ่งยากเหมือนแบบอื่น, สีของเครื่องมือจัดฟันที่มีความใกล้เคียงกับสีฟันธรรมชาติ รวมถึงความสะดวกในการปรับเครื่องมือที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สะดวกมาหาทันตแพทย์เป็นประจำอีกด้วย
บริการจัดฟันใส Invisalign จัดฟันแบบใส อวดรอยยิ้มอย่างมั่นใจ

จัดฟันใส Invisalign คืออะไร
การจัดฟันแบบใส หรืออินวิสไลน์ (Invisalign) เป็นวิธีการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือจัดฟันที่ถูกออกแบบมาสำหรับคนไข้แต่ละคนผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่แสดงผลในรูปแบบของวิดีโอ 3D ซึ่งทันตแพทย์จะส่งข้อมูลของคนไข้ไปยังห้องแล็บ Invisalign ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ทางแล็บออกแบบเครื่องมือจัดฟันส่งมายังประเทศไทย โดยเครื่องมือชนิดนี้มีความพิเศษตรงที่มีความยืดหยุ่นสูง แม้ว่าฟันซ้อนเกมากแค่ไหนก็ตาม สามารถส่งแรงเบาแบบต่อเนื่องเพื่อให้ฟันเคลื่อนตัวเรื่อย ๆ โดยที่ผู้ใส่ไม่รู้สึกเจ็บฟันเหมือนเครื่องมือจัดฟันชนิดอื่น ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถกำหนดผลการรักษาได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ตัวเครื่องมือสามารถถอดได้ด้วยตัวเอง และมีสีใส คล้ายคลึงกับสีฟันธรรมชาติ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการไม่ให้ใครเห็นเครื่องมือจัดฟัน
จัดฟันแบบใสมีกี่แบบ อะไรบ้าง
1.Invisalign Express หรือ Invisalign i7 (i7)
Invisalign Express หรือ Invisalign i7 เป็นการจัดฟันแบบใสที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเพียงเล็กน้อยค่ะ
ระบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันห่างเพียง 1-2 ซี่เท่านั้นค่ะ หรือเหมาะสำหรับผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้วแต่ฟันกลับมาเคลื่อนตัวเล็กน้อยค่ะ การรักษาจะใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใสไม่เกิน 7 คู่ ทำให้ระยะเวลาการรักษาสั้นมาก อยู่ที่ประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้นค่ะ
ข้อดีของ Invisalign i7 คือใช้เวลารักษาสั้น ราคาประหยัดกว่าการจัดฟันแบบใสเต็มรูปแบบ และเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นค่ะ
2.Invisalign Lite
Invisalign Lite เป็นการจัดฟันแบบใสที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันในระดับปานกลางค่ะ
ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันห่างในระดับที่มากกว่า Invisalign i7 แต่ไม่ถึงกับซับซ้อนมากค่ะ การรักษาจะใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใสประมาณ 8-14 คู่ ทำให้ระยะเวลาการรักษาอยู่ที่ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีค่ะ
ข้อดีของ Invisalign Lite คือสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้มากกว่า Invisalign i7 แต่ยังใช้เวลาและค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดฟันแบบใสเต็มรูปแบบค่ะ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาฟันในระดับปานกลางค่ะ
นอกจากนี้ Invisalign Lite ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้วแต่ฟันมีการเคลื่อนตัวกลับมาในระดับปานกลางค่ะ
3.Invisalign Full หรือ Invisalign Moderate
Invisalign Full หรือ Invisalign Moderate เป็นการจัดฟันแบบใสที่ครอบคลุมการรักษาปัญหาฟันได้แทบทุกประเภทค่ะ
ระบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซับซ้อน เช่น ฟันซ้อนมาก ฟันเกมาก มีปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ หรือมีช่องว่างระหว่างฟันมากค่ะ การรักษาจะใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส 15 คู่ขึ้นไป ทำให้ระยะเวลาในการรักษาอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปีค่ะ
ข้อดีของ Invisalign Full คือ
- สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ซับซ้อนและครอบคลุมมากกว่าแบบ i7 และ Lite ค่ะ
- สามารถปรับการสบฟันที่ผิดปกติได้ค่ะ
- มีแผนการรักษาที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้หากผลการรักษาไม่เป็นไปตามที่คาดหวังค่ะ
- ทันตแพทย์สามารถติดอุปกรณ์เสริมเพื่อช่วยในการเคลื่อนฟันที่ซับซ้อนได้ค่ะ
Invisalign Full เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาฟันอย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือจัดฟันแบบโลหะค่ะ
4.Invisalign Go
Invisalign Go เป็นระบบจัดฟันแบบใสรุ่นย่อยภายใต้แบรนด์ Invisalign ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการรักษาปัญหาฟันในระดับเบาถึงปานกลางค่ะ โดยมุ่งเน้นที่การแก้ไขความสวยงามของฟันหน้าเป็นหลัก (ฟันซี่ที่ 1-6 หรือฟันที่มองเห็นเวลายิ้ม) ค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง Invisalign Go กับ Invisalign แบบเดิม (Invisalign Full) มีดังนี้ค่ะ:
- จำนวนชิ้นเครื่องมือ: Invisalign Go ใช้จำนวนชิ้นใสไม่เกิน 20 ชิ้น ในขณะที่ Invisalign Full อาจใช้มากกว่า 20 ชิ้นขึ้นไปตามความซับซ้อนของปัญหาค่ะ
- ระยะเวลาการรักษา: Invisalign Go ใช้เวลารักษาประมาณ 5-7 เดือน ส่วน Invisalign Full อาจใช้เวลา 12-24 เดือนค่ะ
- ขอบเขตการรักษา: Invisalign Go เน้นแก้ไขเฉพาะความสวยงามของฟันหน้า ไม่เน้นการแก้ไขการสบฟันที่ซับซ้อน ในขณะที่ Invisalign Full สามารถแก้ไขปัญหาการเรียงตัวและการสบฟันที่ซับซ้อนได้ค่ะ
- ราคา: Invisalign Go มีราคาถูกกว่า Invisalign Full ประมาณครึ่งหนึ่ง เนื่องจากใช้จำนวนชิ้นน้อยกว่าและระยะเวลารักษาสั้นกว่าค่ะ
- กลุ่มเป้าหมาย: Invisalign Go เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนหรือห่างเล็กน้อย เน้นเฉพาะความสวยงาม ส่วน Invisalign Full เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาซับซ้อนและต้องการแก้ไขทั้งการเรียงตัวและการสบฟันค่ะ
Invisalign Go จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขรอยยิ้มให้สวยงามโดยไม่จำเป็นต้องใช้การรักษาแบบเต็มรูปแบบที่มีราคาสูงและใช้เวลานานค่ะ
**ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟันแบบไหน ? หมอแนะนำให้มาปรึกษาเพื่อประเมินสภาพฟันโดยละเอียดนะคะ เพราะว่าโครงสร้างและปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกันซึ่งทันตแพทย์จะพิจารณาว่าคุณเหมาะกับการจัดฟันแบบไหนเหมาะสมที่สุดค่ะ

จัดฟัน Invisalign จัดฟันแบบใส เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาฟันเรียงตัวผิดปกติทุกประเภท เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง ฟันสบลึก ฟันสบเปิด ฟันสบไขว้ ขากรรไกรล่างยื่น
- ผู้ที่ไม่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นเครื่องมือจัดฟัน
- ผู้ที่ไม่สะดวกพบทันตแพทย์ตามนัดในทุก ๆ ครั้ง
- ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการถอนฟันซึ่งต้องตะไบฟันหรือขยายฟันออกด้านข้าง
- ผู้ที่ต้องจัดฟันอย่างเร่งด่วน (ภายใน 6 เดือน – 2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละบุคคล)
- ผู้ที่ต้องการความสะดวกในการใช้ชีวิต เนื่องจากสามารถถอดเครื่องมือเพื่อรับประทานอาหารได้ตามปกติ หรือถอดออกเพื่อแปรงฟันได้เหมือนคนปกติ
** ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับทันตแพทย์ด้วยว่ามีการวางแผนไว้ว่าอย่างไร และพิจารณาว่าฟันของคนไข้เหมาะกับการจัดฟันใสหรือไม่
รีวิวจัดฟันใส จัดฟัน Invisalign กับ หมอณัฐที่ Tooth Luck dental clinic
ขอบคุณน้องวิปครีม blogger, influencer
ขอบคุณน้องวิปครีม blogger, influencer ที่ไว้ใจมาจัดฟันใสกับหมอณัฐที่ Tooth Luck dental clinicนะคะ
เคสนี้น้องไปถามมาหลายที่ มีแต่คนเชียร์ให้ไปตัว full ซึ่งราคาจะกระโดดไป 2 เท่ากว่าเลย แต่หมอณัฐมองว่ายังใช้แค่ตัวเล็ก invisalign go ก็พอที่จะแก้ไขรอยยิ้มตามแบบที่น้องต้องการได้ค่ะ
Invisalign Go เป็นระบบจัดฟันแบบใสที่ออกแบบมาสำหรับการแก้ไขปัญหาฟันในระดับเบาถึงปานกลางค่ะ โดยเฉพาะฟันซี่หน้าที่มองเห็นได้เวลายิ้ม (ฟันซี่ที่ 1-6) ใช้จำนวนชิ้นใสน้อยกว่า Invisalign Full คือประมาณไม่เกิน 20 ชิ้น และระยะเวลาการรักษาสั้นกว่า อยู่ที่ประมาณ 5-7 เดือนค่ะ Invisalign Go เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขเฉพาะความสวยงามของรอยยิ้ม โดยไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงการสบฟันมากนัก และที่สำคัญราคาจะถูกกว่า Invisalign Full ประมาณครึ่งหนึ่งเลยค่ะ
จัดเสร็จน้องพอใจ หมอก็ดีใจค่ะ (แผนการรักษาต้องดูเป็นเคสๆไปนะคะ)
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกในการจัดฟันแบบใส หมอขอเชิญชวนให้มาปรึกษากับทีมทันตแพทย์ของเราที่ Tooth Luck dental clinic นะคะ หมอจะช่วยวิเคราะห์และเลือกแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพฟันของคุณ โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเกินความจำเป็นค่ะ นัดหมายล่วงหน้าได้ที่สาขานนทบุรีและขอนแก่นค่ะ ทุกคำปรึกษาและการประเมินเบื้องต้นไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ มาเปลี่ยนรอยยิ้มให้สวยด้วยการจัดฟันที่เหมาะสมกับคุณที่สุดกันค่ะ
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส
- ทันตแพทย์ตรวจช่องปากด้วยการเอกซเรย์, พิมพ์ช่องปาก, ถ่ายรูปใบหน้าโดยรวมและถ่ายช่องปาก เพื่อดูความผิดปกติของช่องปาก, ประเมินและวางแผนการรักษาให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- หากพบปัญหาช่องปาก ทันตแพทย์จะเคลียร์ช่องปากก่อนจัดใส่เครื่องมือจัดฟันแบบใส ด้วยการขูดหินปูน, อุดฟัน, ถอนฟัน, ผ่าฟันคุด ฯลฯ เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังการจัดฟันแบบใส
- ทันตแพทย์สแกนฟันแบบ 3D เพื่อจำลองช่องปากของคนไข้ ซึ่งจะช่วยให้ทันตแพทย์คำนวณทิศทางการรักษาให้ได้ผลลัพธ์แม่นยำที่สุด จากนั้นจึงส่งไปยังห้องแล็บ Invisalign เพื่อวางแผนการรักษาผ่านซอฟต์แวร์ Clincheck
- จากนั้นทีมแพทย์จากห้องแล็บจะทำพิมพ์ปากสำหรับทำเป็นแม่พิมพ์และขึ้นรูปเครื่องมือจัดฟันแบบใส
- ทันตแพทย์จัดส่งเครื่องมือจัดฟันแบบใสมายังประเทศไทย
- ทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาจะแนะนำรายละเอียดของการจัดฟันแบบใสให้แก่คนไข้
- ทันตแพทย์ผลิตเครื่องมือจัดฟันแบบใสและทดสอบว่าเครื่องมือจัดฟันพอดีกับคนไข้หรือไม่ หากไม่มีปัญหาใด ๆ ก็สามารถนำไปใช้ได้ทันที
- เมื่อครบกำหนดการจัดฟัน ทันตแพทย์จะให้คนไข้ใส่รีเทนเนอร์เพื่อป้องกันฟันเคลื่อนตัว โดยคนไข้จะต้องใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อคงผลลัพธ์การรักษาเอาไว้
จัดฟันแบบใส ข้อเสียมีอะไรบ้าง
แม้ว่าการจัดฟันแบบใสจะมีประสิทธิภาพสูงก็ตาม แต่ก้มีข้อจำกัดเช่นกัน โดยข้อจำกัดที่พบบ่อย มีดังนี้
- การจัดฟันแบบใสไม่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงลืมบ่อย ๆ เพราะหากคนไข้ถอดวางไว้สักที่หนึ่งแล้วเผลอลืมทิ้งไว้ อาจเสียต่อการสูญเสียหายได้ง่าย
- คนไข้ต้องให้ความร่วมมือกับทันตแพทย์สูง ต้องไม่ลืมสวมเครื่องมือบ่อย
- การจัดฟันใสเป็นเครื่องมือจัดฟันที่มีราคาสูงกว่าเครื่องมือจัดฟันประเภทอื่น จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่ในปัจจุบันคนไข้สามารถเข้าถึงบริการจัดฟันแบบใสได้ง่ายขึ้น เนื่องจากคลินิกหลายแห่งเปิดบริการผ่อนชำระสำหรับคนไข้กลุ่มนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีความจำเป็นในการจัดฟันสามารถจัดฟันได้ไวยิ่งขึ้น

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับจัดฟันใส Invisalign
การจัดฟันใส Invisalign ไม่จำเป็นต้องผ่าฟันคุดในทุกกรณีค่ะ การตัดสินใจว่าต้องผ่าฟันคุดหรือไม่ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยค่ะ
ในกรณีที่อาจจำเป็นต้องผ่าฟันคุดก่อนการจัดฟันใส Invisalign:
- ฟันคุดอยู่ในตำแหน่งที่อาจขัดขวางการเคลื่อนที่ของฟันในระหว่างการจัดฟันค่ะ
- ฟันคุดกำลังดันฟันข้างเคียงให้เกิดการซ้อนเก ซึ่งอาจส่งผลต่อความสำเร็จของการจัดฟันค่ะ
- ฟันคุดมีอาการอักเสบ เจ็บปวด หรือมีการติดเชื้อค่ะ
- ฟันคุดมีการสร้างถุงน้ำหรือก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ค่ะ
ในกรณีที่อาจไม่จำเป็นต้องผ่าฟันคุด: • ฟันคุดอยู่ในตำแหน่งที่ไม่รบกวนการจัดฟันค่ะ • ฟันคุดไม่มีอาการใดๆ และไม่มีแนวโน้มจะก่อปัญหาในอนาคตอันใกล้ค่ะ • ฟันคุดขึ้นบางส่วนในแนวปกติและไม่มีการอักเสบค่ะ
ข้อดีของ Invisalign คือในบางกรณี การจัดฟันด้วยระบบนี้สามารถเพิ่มพื้นที่ให้ฟันคุดขึ้นได้เองโดยไม่ต้องผ่าตัดค่ะ โดยเฉพาะในกรณีที่มีพื้นที่ไม่เพียงพอเนื่องจากฟันซ้อนค่ะ
หมอแนะนำให้มาตรวจประเมินสภาพฟันและฟันคุดก่อนเริ่มการจัดฟันใส Invisalign นะคะ ทันตแพทย์จะตรวจสอบด้วยภาพถ่ายรังสีพาโนรามาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกรณีของคุณค่ะ
ช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการจัดฟันแบบใส Invisalign คือช่วงอายุ 12-15 ปีค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงที่ฟันน้ำนมหลุดออกจากช่องปากหมดแล้ว และฟันแท้ขึ้นครบหรือเกือบครบทุกซี่ค่ะ
นอกจากนี้ ช่วงวัยนี้ยังมีข้อดีคือกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ทำให้การเคลื่อนย้ายฟันทำได้ง่ายกว่าและเร็วกว่า ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บปวดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการจัดฟันในวัยผู้ใหญ่ค่ะ อีกทั้งเด็กในวัยนี้สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ในระดับหนึ่ง และมีความรับผิดชอบมากพอที่จะดูแลเครื่องมือจัดฟันแบบใสได้ดีค่ะ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน Invisalign มีรุ่นสำหรับเด็กที่เรียกว่า Invisalign First ซึ่งออกแบบมาสำหรับเด็กอายุ 6-10 ปีที่ยังมีฟันน้ำนมและฟันแท้ปะปนกันค่ะ และสำหรับผู้ใหญ่ก็สามารถจัดฟันแบบใสได้ไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ แม้จะใช้เวลารักษานานกว่าวัยเด็กก็ตามค่ะ
หมอแนะนำให้พาเด็ก ๆ มาปรึกษาทันตแพทย์จัดฟันเด็กเพื่อประเมินความเหมาะสมในการจัดฟันแบบใส Invisalign นะคะ
จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ว่าฟันของคนไหนมีปัญหาเดิมมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็จะสามารถทำได้เลย โดยทันตแพทย์คนไข้ไป X-ray เพื่อดูโครงสร้างฟัน จากนั้นก็จะขูดหินปูน อุดฟันในกรณีที่มีฟันผุ และอาจจะมีการถอนฟันร่วมด้วยหากเป็นสิ่งที่จำเป็น
ไม่เจ็บ เพียงแต่อาจรู้สึกตึง ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ กรณีที่คนไข้มีฟันที่เรียงตัวแน่นมาก อาจมีอาการเจ็บตามมาเพียงแค่ 1-2 วันแรกของการใส่อินวิสไลน์เท่านั้น จากนั้นอาการเจ็บจะค่อย ๆ ทุเลาลง
ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของคนไข้แต่ละคน หากคนไข้มีฟันเกฟันซ้อนจนไม่เหลือช่องว่างให้ฟันเคลื่อนตัว ทันตแพทย์อาจแนะนำให้ถอนฟันบางซี่ออก คล้ายกับการผ่าฟันคุดค่ะ
แล้วแต่โครงสร้างฟันและปัญหาของคนไข้แต่ละคน บางคนอาจจะใช้เวลา 12-18 เดือน บางคนที่มีปัญหาไม่เยอะหรือเคยจัดฟันมาก่อนก็อาจจะใช้เวลาแค่ 3-5 เดือนก็เริ่มเห็ยการเปลี่ยนแปลงแล้ว
ขึ้นอยู่กับปัญหาการเรียงตัวของฟันของคนไข้แต่ละคน หากคนไข้มีปัญหาฟันเพียงไม่กี่ซี่ ทันตแพทย์จะแนะนำให้จัดฟันแบบ i7 หรือ Invisalign lite ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ถึง 1 ปี แต่หากมีปัญหาฟันมาก ทันตแพทย์จะให้จัดฟันแบบ Invisalign Full ซึ่งจะใช้เวลารักษาประมาณ 1-2 ปี ประเภทของเครื่องมือ
จัดฟันใส Invisalign ถอดได้ค่ะ นี่คือหนึ่งในข้อดีหลักของการจัดฟันระบบนี้เมื่อเทียบกับจัดฟันแบบดั้งเดิมค่ะ
การจัดฟันแบบใสได้รับการออกแบบให้ถอดประกอบได้ง่าย คุณสามารถถอดเครื่องมือจัดฟันใสได้ด้วยตัวเองในช่วงเวลาดังนี้ค่ะ:
• เวลารับประทานอาหารทุกมื้อค่ะ • เวลาแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันค่ะ • เวลาดื่มเครื่องดื่มที่มีสี เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม ไวน์ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องมือเปลี่ยนสีค่ะ • ในโอกาสพิเศษหรืองานสังคมสำคัญ (แต่ไม่ควรถอดนานเกินไป) ค่ะ
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุด คุณควรใส่เครื่องมือจัดฟันใสอย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวันค่ะ การถอดเครื่องมือบ่อยเกินไปหรือนานเกินไปจะทำให้การรักษาล่าช้าและอาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการค่ะ
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ควรแปรงฟันหรืออย่างน้อยบ้วนปากให้สะอาดก่อนใส่เครื่องมือกลับเข้าไปค่ะ และควรทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันใสเป็นประจำด้วยน้ำเย็นและแปรงสีฟันอ่อนๆ หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ทันตแพทย์แนะนำค่ะ
หมอแนะนำให้มาปรึกษาเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดฟันแบบใส Invisalign นะคะ
แม้ว่าการจัดฟันใสจะสามารถถอดออกได้ตามความสะดวก แต่อย่าลืมว่าอินวิสไลน์ก็เป็นเครื่องมือจัดฟันชนิดหนึ่ง ดังนั้นคนไข้จึงต้องมีวินัยในการใส่อย่างเคร่งครัด อินวิสไลน์สามารถถอดออกได้เพียงแค่ช่วงรับประทานอาหารและช่วงแปรงฟันเท่านั้น ดังนั้นคุณควรใส่อินวิสไลน์อย่างน้อย 22 ชั่วโมง กรณีที่คุณลืมใส่อินวิสไลน์ หากนึกขึ้นได้ให้รีบใส่ทันที เพื่อการที่ไม่ใส่เครื่องมือเป็นเวลานานอาจ ทำให้ฟันเคลื่อนตัวไม่ตรงตามแผนการรักษาของทันตแพทย์ อาจส่งผลให้ต้องมานั่งรักษาใหม่ตั้งแต่ต้น
จัดฟันแบบใสต้องไปหาหมอไหม
จัดฟันแบบใสต้องไปพบทันตแพทย์อย่างแน่นอนค่ะ แม้ว่าการจัดฟันแบบใส Invisalign จะต้องพบทันตแพทย์น้อยครั้งกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอค่ะ
ขั้นตอนการจัดฟันแบบใสโดยทั่วไปมีดังนี้ค่ะ:
- การตรวจประเมินเบื้องต้น: ทันตแพทย์จะตรวจสภาพฟัน ถ่ายภาพรังสี และพิมพ์ปากหรือสแกนฟันด้วยเครื่องสแกนดิจิทัลค่ะ
- การวางแผนการรักษา: ทันตแพทย์จะใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ออกแบบแผนการเคลื่อนฟันและจำนวนชุดเครื่องมือที่ต้องใช้ค่ะ
- การเริ่มการรักษา: คุณจะได้รับชุดเครื่องมือจัดฟันใสจำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องเปลี่ยนทุก 1-2 สัปดาห์ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ค่ะ
- การติดตามผล: คุณต้องไปพบทันตแพทย์ทุก 6-8 สัปดาห์เพื่อตรวจดูความคืบหน้าและรับชุดเครื่องมือใหม่ค่ะ
- การสิ้นสุดการรักษา: เมื่อการรักษาเสร็จสิ้น คุณจะได้รับเครื่องมือคงสภาพฟัน (รีเทนเนอร์) เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับค่ะ
ความถี่ในการพบทันตแพทย์ในระหว่างการจัดฟันแบบใสจะน้อยกว่าการจัดฟันแบบดั้งเดิม แต่การมาตามนัดมีความสำคัญมากเพื่อให้ทันตแพทย์สามารถตรวจสอบว่าการรักษาเป็นไปตามแผนหรือไม่ค่ะ
ถ้าคุณเคยเจอโฆษณาที่ว่า สามารถจัดฟันแบบใสได้โดยไม่ต้องพบทันตแพทย์ อันนี้อาจจะต้องพิจารณาเพิ่มเติมแบบหนัก ๆ เลยนะคะ เพราะการรักษาโดยไม่มีการควบคุมดูแลจากผู้เชี่ยวชาญอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพฟันและเหงือกของคุณได้ค่ะ มีแต่มาพบน้อยกง่า แต่ไม่ต้องมาเลย อันนี้เป็นไปแทบไม่ได้เลย
โดยทั่วไป Invisalign ต้องเปลี่ยนทุก 1-2 สัปดาห์ค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของทันตแพทย์ผู้ดูแลการรักษาค่ะ
รูปแบบการเปลี่ยน Invisalign ที่พบบ่อยมีดังนี้:
- แบบเปลี่ยนทุก 7 วัน (1 สัปดาห์): เหมาะสำหรับคนไข้ที่ใส่เครื่องมือจัดฟันอย่างสม่ำเสมอ (20-22 ชั่วโมงต่อวัน) และฟันเคลื่อนตัวได้ดีค่ะ
- แบบเปลี่ยนทุก 14 วัน (2 สัปดาห์): เป็นรูปแบบมาตรฐานสำหรับคนไข้ทั่วไปค่ะ
- แบบเปลี่ยนทุก 10 วัน: เป็นทางเลือกกลางระหว่าง 7 วันและ 14 วัน ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของฟันแต่ละบุคคลค่ะ
ปัจจุบัน Invisalign รุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะแนะนำให้เปลี่ยนทุก 7 วันมากขึ้น เนื่องจากมีการพัฒนาวัสดุและเทคโนโลยีที่ช่วยให้ฟันเคลื่อนตัวได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ อย่างไรก็ตาม ทันตแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละกรณีค่ะ
สิ่งสำคัญคือคุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดและใส่เครื่องมือให้ครบตามเวลาที่กำหนด (20-22 ชั่วโมงต่อวัน) เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการค่ะ
สามารถใส่ทานได้ค่ะ แต่หมอไม่แนะนำเพราะว่า ...
- อาหารอาจติดค้างอยู่ในชิ้น Invisalign ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและโรคเหงือกค่ะ
- การเคี้ยวอาหารขณะใส่ Invisalign อาจทำให้ชิ้นเครื่องมือเสียรูป แตก หรือเกิดรอยขีดข่วน ซึ่งส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพในการจัดฟันค่ะ
- อาหารบางชนิดอาจทำให้ Invisalign เปลี่ยนสีหรือมีคราบติดแน่นค่ะ
วิธีที่ถูกต้องคือ:
- ถอด Invisalign ออกก่อนรับประทานอาหารทุกครั้งค่ะ
- เก็บ Invisalign ไว้ในกล่องที่จัดเตรียมไว้ให้ ไม่ควรวางไว้บนกระดาษทิชชู่เพราะอาจทิ้งโดยไม่ตั้งใจค่ะ
- หลังรับประทานอาหารเสร็จ ควรแปรงฟันก่อนใส่ Invisalign กลับเข้าไปค่ะ
- หากไม่สามารถแปรงฟันได้ ควรอย่างน้อยบ้วนปากให้สะอาดด้วยน้ำเปล่าก่อนใส่ Invisalign กลับค่ะ
คุณสามารถดื่มน้ำเปล่าขณะใส่ Invisalign ได้ค่ะ แต่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีสี เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม เพราะอาจทำให้ Invisalign เปลี่ยนสีได้ค่ะ เพื่อให้การจัดฟันได้ผลดีที่สุด หมอแนะนำให้ใส่ Invisalign อย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวัน ดังนั้นควรจำกัดเวลาในการถอดเครื่องมือเฉพาะช่วงรับประทานอาหารและแปรงฟันเท่านั้นค่ะ
ไม่ควรอมลูกอมขณะใส่จัดฟันใส Invisalign ค่ะ เพราะน้ำตาลในลูกอมจะติดค้างระหว่างชิ้น Invisalign กับตัวฟัน เป็นเวลานาน ซึ่งเป็นสภาวะที่เสี่ยงมากต่อการเกิดฟันผุค่ะ
นอกจากนี้ น้ำตาลในลูกอมยังอาจทำให้เกิดคราบเหนียวติดบนชิ้น Invisalign ทำให้เครื่องมือเปลี่ยนสี หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ และหากเป็นลูกอมที่มีสี อาจทำให้ชิ้น Invisalign เปลี่ยนสีจนมองเห็นได้ชัดเจนค่ะ
นอกจากลูกอมแล้ว หมอไม่แนะนำให้กินอาหารที่มีความเหนียว เช่น หมากฝรั่ง ลูกอมเคี้ยวหนึบ เพราะขนมเหล่านี้อาจติดเครื่องมือได้ง่ายแต่เอาออกได้ยากมาก นอกจากนี้ยัง ห้ามทานผลไม้เนื้อแข็ง เช่น มะม่วงดิบ ฝรั่ง โดยหากจะเลือกทานควรหั่นเป็นชิ้นเล็ก และหากจะกินจริง ๆ จะต้องถอดเครื่องมือจัดฟันใสออกก่อนทานทุกครั้งค่ะ และควรแปรงฟันหรืออย่างน้อยบ้วนปากให้สะอาดก่อนใส่ Invisalign กลับเข้าไปค่ะ
Invisalign สามารถทำความสะอาดด้วยวิธีง่าย ๆ เช่น
- วิธีที่ 1 ล้างด้วยน้ำเย็นทุกครั้งที่ถอดออกจากปากค่ะ (ห้ามใช้น้ำร้อน) แปรงเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่มอีกชุดที่แยกไว้สำหรับทำความสะอาด Invisalign โดยเฉพาะค่ะ ใช้สบู่ล้างมือแบบอ่อนๆ ที่ไม่มีน้ำหอมแรงเพียงเล็กน้อยแทนการใช้ยาสีฟันค่ะ และหลังล้างเสร็จให้ล้างด้วยน้ำเย็นให้สะอาดอีกครั้งค่ะ
- วิธีที่ 2 ผสมน้ำเปล่า 1 แก้วกับน้ำส้มสายชูขาว 1 ช้อนโต๊ะ แช่ Invisalign ในสารละลายนี้ประมาณ 15 นาทีค่ะ หลังแช่เสร็จ แปรงเบาๆ และล้างด้วยน้ำเย็นให้สะอาดค่ะ วิธีนี้ช่วยขจัดคราบและกลิ่นได้ดีค่ะ
- วิธีที่ี 3 ผสมน้ำเปล่ากับเบกิ้งโซดา 1-2 ช้อนชา แล้วแช่ประมาณ 30 นาที ก็ช่วยทำความสะอาดได้ดีค่ะ ส่วนแปรงสีฟันที่ใช้แปรง Invisalign ควรเปลี่ยนทุก 3 เดือนเหมือนแปรงสีฟันทั่วไปค่ะ
ไม่ควรดื่มกาแฟขณะใส่ Invisalign ค่ะ คุณควรถอดเครื่องมือจัดฟันใสออกก่อนดื่มกาแฟทุกครั้งค่ะ เพราะว่า ..
- กาแฟมีสีเข้ม ซึ่งจะทำให้ Invisalign เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาลได้
- กาแฟมีความร้อน ซึ่งอาจทำให้เครื่องมือ Invisalign เสียรูปทรงได้ค่ะ
- กาแฟมีความเป็นกรด ซึ่งหากถูกกักเก็บระหว่างฟันกับเครื่องมือ อาจทำให้เกิดฟันผุได้ค่ะ
เมื่อต้องการดื่มกาแฟ ควรถอด Invisalign ออกและเก็บไว้ในกล่องที่สะอาดค่ะ ไม่ควรดื่มกาแฟนานจนเกินไป เพราะต้องไม่ลืมว่า คุณจะต้องสวม Invisalign ให้ครบจำนวนชั่วดมงที่กำหนดต่อวัน และควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า หรือถ้าเป็นไปได้ควรแปรงฟันก่อนใส่ Invisalign กลับเข้าไปค่ะ
การจัดฟันแบบใส Invisalign มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการจัดฟันแบบดั้งเดิมค่ะ โดยทั่วไปราคาของ Invisalign จะขึ้นอยู่กับประเภทของ Invisalign และความซับซ้อนของแต่ละกรณีค่ะ หมอแนะนำให้มาปรึกษาเพื่อประเมินสภาพฟันและรับคำแนะนำเกี่ยวกับทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณนะคะ

- All Posts
- blog
- Back
- จัดฟัน
- ถอนฟัน
- อุดฟัน
- รากฟันเทียม
- ครอบฟัน
- วีเนียร์
- ขูดหินปูน