เตรียมตัวอย่างไร ก่อนตัดสินใจจัดฟันครั้งแรก

จัดฟันครั้งแรก

สำหรับใครที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากจนรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่รับประทานอาหาร มีกลิ่นปากเหม็นจนคนรอบข้างทนไม่ได้ หรือฟันซ้อนเกที่ลดความมั่นใจทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน แล้วต้องการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว บางคนอาจสงสัยว่าถ้าจะเริ่มจัดฟันครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องรู้อะไรก่อนไปจัดฟันบ้าง วันนี้หมอณัฐจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

เตรียมตัวอย่างไรก่อนจัดฟันครั้งแรก

จัดฟันครั้งแรก

หมอณัฐแนะนำอย่างแรกเลยนะคะ เตรียมใจค่ะ เพราะการจัดฟันจะต้องใช้เวลานานอย่างต่ำ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องมือจัดฟัน) และที่สำคัญต้องมีเวลามาพบคุณหมอทุกครั้งตามนัดเพื่อให้คุณหมอปรับเครื่องมือจัดฟันให้เหมาะกับช่องปากของคนไข้ หากคุณมีแพลนเดินทางจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศหรือย้ายถิ่นฐาน ไม่สามารถเดินทางมาจัดฟันกับคลินิกเดิมได้ อาจต้องทำการย้ายเคสจัดฟันกับคลินิกใหม่ ซึ่งจะทำให้คนไข้เสียค่าใช้จ่ายเพื่อทำพิมพ์ปากใหม่ นอกจากนี้ยังต้องรื้อเครื่องมือจัดฟันออกทั้งหมดเพื่อติดเครื่องมือชุดใหม่ คนไข้บางรายจำเป็นต้องถอนฟันเพิ่มตามดุลยพินิจของคุณหมอท่านใหม่ และที่สำคัญอาจทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้นด้วยนะคะ

และเมื่อคนไข้ตัดสินใจจะจัดฟันแล้ว คนไข้จะต้องเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพในช่องปากเพื่อดูความผิดปกติต่าง ๆในช่องปากทั้งที่สามารถมองเห็นและมองไม่เห็นได้ด้วยตา เมื่อคุณหมอตรวจดูช่องปากคนไข้เรียบร้อยแล้วจึงเคลียร์ช่องปากให้เป็นปกติก่อนเริ่มจัดฟัน จากนั้นจึงวางแผนการรักษาโดยคนไข้เลือกรูปแบบเครื่องมือจัดฟันว่าสะดวกติดเครื่องมือประเภทไหน คนไข้เลือกได้ด้วยว่าจะเก็บฟันบางซี่เอาไว้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การให้คำปรึกษาของคุณหมอด้วยนะคะ หลังจากตัดสินใจเรียบร้อยแล้วคุณหมอจะแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาของการจัดฟัน ค่าใช้จ่าย รวมถึงแผนการจัดฟันด้วยค่ะ

จัดฟันครั้งแรกได้ตั้งแต่ตอนอายุเท่าไหร่

โดยทั่วไปแล้วการจัดฟันสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ (ไม่เกิน 60 ปี) สำหรับช่วงอายุที่เหมาะต่อการจัดฟันมากที่สุดคือ 10-14 ปี เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด หากจัดฟันในช่วงนี้จะส่งผลให้ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย ไม่เจ็บปวดจากการเคลื่อนฟันเหมือนช่วงวัยอื่นที่ฟันเริ่มแข็งแรงและยากต่อการปรับทิศทางฟัน

ขั้นตอนการจัดฟันครั้งแรก

  • คุณหมอจะตรวจสุขภาพในช่องปากแล้ว คุณหมอจะพิมพ์ปากและ X-ray เพื่อดูโครงสร้างกระดูกใบหน้า, ขากรรไกร และลักษณะของฟันเพื่อวางแผนการรักษา จากนั้นจึงประเมินและแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับจัดฟันให้คนไข้ทราบ ทั้งนี้คนไข้สามารถเลือกได้ว่าจะเลือกแผนการรักษาตามความสะดวกของคนไข้ แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของคุณหมอ หากมีข้อสงสัย หมอณัฐแนะนำให้ถามทันที เพราะหากเริ่มจัดฟันขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจเป้นเรื่องยุ่งยากหากต้องมาเปลี่ยนทีหลัง
  • หลังจากได้ข้อตกลงแล้ว คุณหมอจะแจ้งให้ทราบว่ามีความจำเป็นที่จะต้องถอนฟันซี่ไหนบ้าง หลังจากนั้นจึงเริ่มเคลียร์ช่องปากก่อนการติดเครื่องมือจัดฟัน (อ่านเพิ่มเติม: ไขข้อข้องใจ ทำไมต้องเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน)
  • เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว คุณหมอจะทำการติดเครื่องมือจัดฟันให้แก่คนไข้ ทั้งนี้คนไข้ควรศึกษาข้อมูลและเตรียมรับมือกับอาการปวดหลังจากจัดฟันให้ดี เพื่อให้แผนการรักษาเป็นไปตามที่คุณหมอวางไว้ ซึ่งจะเป็นเรื่องดีต่อตัวคนไข้เองและคุณหมอด้วยนะคะ

จัดฟันครั้งแรกใส่ยางสีอะไรดี

  • สำหรับคนผิวคล้ำ แนะนำให้เลือกสียางจัดฟันสีเข้มเพื่อเสริมให้ฟันดูเด่นขึ้น เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีน้ำทะเล สีม่วง
  • สำหรับคนผิวขาว แนะนำให้เลือกสียางจัดฟันสีสว่างแต่ไม่สว่างมากจนกลืนไปกับสีของฟัน หรืออาจเลือสีเข้มไปเลยก็ดูเด่นได้ด้วยเช่นกัน เช่น สีชมพู สีฟ้า สีม่วง สีแดง

อ่านเพิ่มเติม: เลือกสียางจัดฟันทั้งที เลือกยังไงให้เข้ากับเราที่สุด

จัดฟันครั้งแรก

Q&A คำถามที่พบบ่อย

จัดฟันครั้งแรกเจ็บไหม กี่วันถึงจะหายปวด

ต้องเข้าใจก่อนว่าอาการปวดฟันหลังจัดฟันเกิดจากเครื่องมือจัดฟันออกแรงดัดฟัน ทำให้หลอดเลือกถูกกดและรู้สึกเจ็บ โดยทั่วไปแล้วอาการปวดจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน หรือประมาณ 1 สัปดาห์ ในช่วงนี้หากรู้สึกคนไข้ปวด แนะนำให้ทานยาแก้ปวดบรรเทาอาการตามคำแนะนำของคุณหมอเลยค่ะ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวเกินไป เพราะอาจกระตุ้นอาการปวดหรืออาจทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ

จัดฟันครั้งแรกกินอะไรได้บ้าง เลือกกินอย่างไรดี

  • หมอณัฐขอแนะนำอาหารอ่อน เคี้ยวง่าย อย่างโจ๊ก, ข้าวต้ม, ก๋วยเตี๋ยว, ซุป, น้ำเต้าหู้, นม ฯลฯ ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเหล็กจัดฟัน
  • หลีกเลี่ยงอาหารแข็งหรือเหนียวอย่างน้ำแข็ง, เนื้อสัตว์ติดกระดูก, หมากฝรั่ง, ลูกอม ฯลฯ เนื่องจากการเคี้ยวอาหารประเภทนี้จะกระตุ้นให้เกิดอาการปวดฟันง่ายขึ้น
  • หากต้องการทานอาหารที่มีเนื้อชิ้นหนา แนะนำให้หั่นแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อนรับประทานทุกครั้ง
  • อย่าลืมเคี้ยวช้า ๆ นะคะ เพราะการเคี้ยวเร็วเกินไปอาจทำให้ปวดฟันง่ายขึ้น

ดูแลหลังจัดฟันอย่างไรบ้าง

  • ทำความสะอาดช่องปากทุกครั้งหลังมื้ออาหาร เพื่อป้องกันการสะสมเศษอาหารที่อาจเกิดปัญหาช่องปากขณะจัดฟัน
  • ทำความสะอาดช่องปากด้วยแปรงสีฟันสำหรับจัดฟัน ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากควบคู่กันด้วย
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจมีผลต่อเครื่องมือหรืออุปกรณ์จัดฟัน เช่น เล่นกีฬาที่เสี่ยงต่อการปะทะ, ใช้ฟันเปิดขวด, นอนกัดฟัน, ใช้ไม้จิ้มฟันแคะซอกฟัน ฯลฯ
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด
  • พบคุณหมอตามนัดทุกครั้ง เพื่อให้ผลการรักษาเป็นไปตามที่คุณหมอกำหนดไว้
  • หากมีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์จัดฟัน หรือพบอาการปวดที่ยังไม่ทุเลาแม้จะผ่านมา 1 สัปดาห์แล้วก็ตาม ให้รีบพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด

จัดฟัน ราคาเท่าไหร่

สำหรับบริการจัดฟันจาก Tooth Luck Dental Clinic มีค่าบริการจัดฟันตามประเภทเครื่องมือดังต่อไปนี้ค่ะ

  • จัดฟันโลหะ ราคา 35,000-50,000 บาท
  • รีเทนเนอร์ (คู่ละ) ราคา 3,000 บาท
  • จัดฟันแบบสองชั้น (AOSC) ราคา 40,000-50,000 บาท
  • จองโปรจัดฟัน ราคา 999 บาท
  • จัดฟันใส Invisalign go เริ่มต้นที่ 69,000 บาท

สำหรับใครที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดฟันครั้งแรก สามารถดูรายละเอียดได้ที่ช่อง Tiktok: dr.nuttakul ของหมอณัฐได้เลยค่ะ

จัดฟันที่ไหนดี

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง

ทำไมต้องทำฟันที่-Toothluck

รีวิวจัดฟันใส Invisalign กับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *