การแปรงฟันถูกวิธีสำคัญอย่างไร มีขั้นตอนไหนที่คุณยังทำผิดบ้าง

การแปรงฟันถูกวิธีเป็นหัวใจสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี หลายคนอาจคิดว่าการแปรงฟันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทำเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้นการแปรงฟันผิดวิธีอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือแม้กระทั่งโรคปริทันต์ ในบทความนี้หมอณัฐจะมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องและคำแนะนำที่เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการแปรงฟันให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาวค่ะ

แปรงฟันผิดวิธี นำไปสู่ปัญหาอะไรได้บ้าง?

หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของการแปรงฟันถูกวิธี และมักจะแปรงฟันไปตามความเคยชิน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาในช่องปากได้โดยไม่รู้ตัว การแปรงฟันที่เน้นความเร็ว หรือการออกแรงมากเกินไปโดยปราศจากเทคนิคที่ถูกต้อง ไม่เพียงแต่จะทำความสะอาดฟันได้ไม่ทั่วถึง แต่ยังสร้างความเสียหายต่อเหงือกและฟันในระยะยาวได้อีกด้วยนะคะ เมื่อคุณแปรงฟันไม่สะอาด อาจเกิดการสะสมของคราบพลัคซึ่งเป็นต้นเหตุหลักของฟันผุ ทำให้แบคทีเรียเข้าไปทำลายเนื้อฟันและเกิดเป็นรูบนผิวฟัน ซึ่งอาจลุกลามหนักจนเกิดอาการปวดอย่างรุนแรง นอกจากนี้การแปรงฟันแรงเกินไป อาจทำให้เหงือกร่น ฟันสึก หรือเกิดอาการเสียวฟันตามมาได้อีกด้วยค่ะ ปัญหาเหล่านี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากโดยตรงนะคะ แต่อาจบั่นทอนความมั่นใจเวลายิ้มและการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นการทำความเข้าใจถึงผลกระทบจากการแปรงฟันที่ผิดวิธี จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาวค่ะ

สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับการแปรงฟันถูกวิธี

การแปรงฟันถูกวิธีนั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แต่ต้องอาศัยความเข้าใจในหลักการและเทคนิคที่ถูกต้องค่ะ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทำความสะอาดให้ทั่วถึงทุกซี่ ทุกด้าน โดยไม่ละเลยบริเวณที่เข้าถึงยาก เช่น ด้านในของฟันหรือร่องเหงือก ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารที่นำไปสู่ปัญหาในช่องปาก โดยหลักการสำคัญและเทคนิคที่คุณควรรู้มีดังนี้

1. เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสม

ขนแปรง: ควรเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม หรือนุ่มปานกลาง เพื่อไม่ให้ทำร้ายเหงือกและเคลือบฟัน การใช้ขนแปรงที่แข็งเกินไปอาจทำให้เหงือกร่นและฟันสึกได้
ขนาดหัวแปรง: ควรเลือกหัวแปรงที่มีขนาดพอเหมาะกับช่องปาก สามารถเข้าถึงซี่ฟันด้านในและซอกมุมต่างๆ ได้ง่าย
แปรงสีฟันไฟฟ้า: สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและประสิทธิภาพในการทำความสะอาด แปรงสีฟันไฟฟ้าเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถสั่นสะเทือนหรือหมุนเพื่อช่วยขจัดคราบพลัคได้ดียิ่งขึ้น และมักมีระบบจับเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าแปรงฟันได้นานพอ

2. เทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้อง

แม้ว่าการใช้แปรงสีฟันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการแปรงฟัน แต่เทคนิคการแปรงนั้นถือเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพของการทำความสะอาดฟันอย่างแท้จริงค่ะ โดยหมอณัฐมีเทคนิคที่แนะนำดังนี้

2.1 การแปรงฟันแนวฟันกราม

สำหรับฟันกรามและฟันด้านในที่ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร ควรแปรงด้วยเทคนิคที่เหมาะสมเพื่อทำความสะอาดร่องฟันได้อย่างทั่วถึง ได้แก่

แปรงฟันแบบขยับ-ปัด (Modifiied Bass Technique): เป็นเทคนิคที่ทันตแพทย์แนะนำมากที่สุด โดยวางขนแปรงทำมุม 45 องศาไปทางเหงือก ให้ปลายขนแปรงชิดกับขอบเหงือกและร่องเหงือก จากนั้นขยับแปรงไปมาสั้นๆ เบาๆ ประมาณ 10-15 ครั้งต่อซี่ หรือกลุ่มฟัน 2-3 ซี่ เพื่อให้ขนแปรงแทรกซึมเข้าไปในร่องเหงือกและซอกฟันได้ดีเยี่ยม วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดคราบพลัคบริเวณขอบเหงือก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคเหงือก
แปรงฟันแบบชาร์เตอร์ (Charter Method): แม้ว่าจะคล้ายกับแบบขยับ-ปัด แต่ปลายขนแปรงจะชี้เข้าหาด้านบดเคี้ยวของฟัน โดยทำมุม 45 องศา จากนั้นค่อยขยับแปรงไปมาสั้นๆ เช่นกัน วิธีนี้เหมาะสำหรับคนไข้จัดฟันหรือผู้ที่มีช่องว่างระหว่างฟัน เนื่องจากจะช่วยทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันและซอกฟันได้ดีกว่าแบบขยับ-ปัด

2.2 การแปรงฟันด้านหน้าและฟันเขี้ยว

เนื่องจากฟันด้านหน้าและฟันเขี้ยวมีลักษณะโค้งและเป็นส่วนที่มองเห็นได้ชัดเจน จึงต้องแปรงอย่างระมัดระวังและต้องทั่วถึง โดยมีแนวทางดังนี้

การแปรงฟันด้านนอก (ริมฝีปากและแก้ม): วางแปรงสีฟันให้ขนแปรงทำมุม 45 องศากับแนวเหงือกเช่นเดียวกับฟันกราม ขยับแปรงไปมาสั้นๆ เบาๆ โดยเน้นการทำความสะอาดคราบพลัคตามแนวเหงือก จากนั้นปัดขนแปรงลง (ฟันบน) หรือปัดขึ้น (ฟันล่าง) เพื่อกวาดเศษอาหารออก
การแปรงฟันด้านใน (ลิ้น): สำหรับฟันหน้าด้านใน ควรจับแปรงสีฟันในแนวตั้งและใช้ปลายขนแปรงขัดถูขึ้นลงเบาๆ การแปรงแบบนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบพลัคที่สะสมอยู่บริเวณฟันหน้าล่างด้านในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. ระยะเวลาและความถี่ในการแปรงฟัน

นอกจากเทคนิคแล้ว ระยะเวลาและความถี่ก็เป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ หมอณัฐมีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ

ระยะเวลา: ควรแปรงฟันอย่างน้อย 2 นาทีต่อครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าได้ทำความสะอาดทั่วถึงทุกซี่ หลายคนอาจใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ซึ่งไม่เพียงพอต่อการกำจัดคราบพลัคได้อย่างสมบูรณ์ การใช้จับเวลาหรือแปรงสีฟันไฟฟ้าที่มีระบบจับเวลาจะช่วยได้มาก
ความถี่: แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ได้แก่ ตอนเช้าหลังอาหารเช้า และก่อนนอน การแปรงฟันก่อนนอนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากขณะนอนหลับร่างกายจะผลิตน้ำลายมาชะล้างเศษอาหารได้น้อยลง ทำให้ช่องปากขาดกลไกการชะล้างตามธรรมชาติ ส่งผลให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีกว่าช่วงเวลาปกติ

4. การดูแลส่วนอื่นๆ ของช่องปาก

แม้ว่าการแปรงฟันจะเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากที่สำคัญ แต่การดูแลส่วนอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น…

การแปรงลิ้น: ลิ้นเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและเศษอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก ควรแปรงลิ้นเบาๆ ด้วยแปรงสีฟันหรือใช้ที่แปรงลิ้นโดยเฉพาะ
การใช้ไหมขัดฟัน: ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดซอกฟันและใต้เหงือก ซึ่งแปรงสีฟันเข้าไม่ถึง ควรใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละครั้งก่อนแปรงฟัน
การใช้น้ำยาบ้วนปาก: น้ำยาบ้วนปากสามารถช่วยลดแบคทีเรียในช่องปากและทำให้ลมหายใจสดชื่นขึ้นได้ แต่ไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันและการใช้ไหมขัดฟันได้
การเลือกยาสีฟัน: ควรเลือกยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของเคลือบฟันและป้องกันฟันผุ

สุดท้ายนี้หากคุณต้องการการดูแลสุขภาพช่องปากที่เหมาะกับคุณจริงๆ หมอณัฐแนะนำให้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับคลินิกทันตกรรม ทั้งนี้อย่าลืมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกทันตกรรมทีสนใจก่อนว่า มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน ทันตแพทย์มีความชำนาญและประสบการณ์มากน้อยแค่ไหน แล้วตัวคลินิกเองเดินทางสะดวกไหม มีโปรโมชั่นที่น่าสนใจอะไรบ้าง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคนไข้เองค่ะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดฟัน คลิก >>> จัดฟัน

บทความที่น่าสนใจ

ดูแลช่องปากที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง