ปัญหาหลังใส่รากฟันเทียมที่คุณไม่ควรละเลย เพื่อช่องปากที่ดี

หลังจากการใส่รากฟันเทียมไปได้สักพัก ก็อาจเกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนบางอย่างที่ทำให้คุณใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากขึ้น ซึ่งบางกรณีอาจรุนแรงจนถึงขั้นต้องรีบมาพบทันตแพทย์โดยด่วนเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว และวันนี้หมอณัฐจะมาพูดถึงปัญหาหลังใส่รากฟันเทียมกันว่ามีอะไรบ้าง แก้ปัญหาอย่างไรดี มาอ่านไปพร้อมกันเลยค่ะ

ปัญหาหลังใส่รากฟันเทียม

1. อาการเจ็บปวดและบวม

เป็นอาการที่พบได้ทั่วไปในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมสำเร็จ สังเกตได้จากใบหน้าหรือเหงือกบวมบริเวณที่ทำรากฟันเทียม มีเลือดซึมออกจากเหงือกเล็กน้อย แต่คนไข้บางรายอาจมีรอยช้ำที่แก้มหรือรอบปากหากมีการผ่าตัดที่ซับซ้อน โดยทั่วไปแล้วอาการเหล่านี้จะยังคงอยู่หลังการผ่าตัดประมาณ 1-2 วัน แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 3-5 วัน เนื่องจากเนื้อเยื่อเริ่มสมานตัวแล้ว

2. การติดเชื้อ

นอกจากอาการปวดบวมหลังทำรากฟันเทียมแล้ว ยังมีอีกอาการหนึ่งที่ต้องระวังนั่นก็คือภาวะติดเชื้อหลังการผ่าตัด ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นห้องผ่าตัดไม่ปลอดเชื้อ อุปกรณ์ไม่สะอาดพอ จากการใช้บริการคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน, การดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีพอ เช่น แปรงฟันวันละครั้ง ไม่ใช้ไหมขัดฟันก่อน/หลังแปรงฟัน, การสูบบุหรี่ที่ลดการไหลเวียนของเลือดบริเวณเหงือกและกระดูก นอกจากจะทำให้เนื้อเยื่อฟื้นตัวช้าลงแล้วยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ง่ายขึ้นด้วย

3. ปัญหาการสมานของกระดูก

ในกรณีที่คนไข้มีกระดูกรองรับรากฟันเทียมไม่เพียงพอ จำเป็นต้องเสริมกระดูก (Bone Grafting) ซึ่งอาจมีปัญหาในเรื่องของตัวกระดูกใหม่ที่เชื่อมตัวหรือรวมตัวกับกระดูกเดิมไม่ได้ เนื่องจากสาเหตุหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อหลังการผ่าตัด, คุณภาพกระดูกไม่แข็งแรงพอ, เลือกตำแหน่งหรือมุมการฝังรากฟันเทียมที่ไม่เหมาะสม, มีแรงดันหรือแรงกดทับมากเกินไปจนทำให้รบกวนการสมานตัว, ผู้เข้ารับการรักษาป่วยเป็นโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงคุณภาพของวัสดุรากฟันเทียมที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจลดโอกาสที่กระดูกจะสมานได้เหมือนกระดูกของคนทั่วไป

4. รากฟันเทียมเคลื่อนที่หรือหลุด

ในกรณีที่กระดูกขากรรไกรของคนไข้บางหรือเสื่อมสภาพ ก็อาจทำให้หลอมรวมกับรากฟันเทียมได้ไม่สมบูรณ์ หรือหากคนไข้ออกแรงบดเคี้ยวบนรากฟันเทียมมากเกินไปในช่วงที่กระดูกยังสมานตัวไม่ดี ก็อาจทำให้รากฟันเทียมไม่มั่นคงและอาจเคลื่อนหรือหลุดออกได้

5. ปัญหาด้านการเคี้ยวหรือพูด

เนื่องจากรากฟันเทียมไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายผลิตขึ้นมา คุณจึงอาจรู้สึกไม่คุ้นชินในช่วงแรกทั้งในเรื่องของการบดเคี้ยวอาหารและการพูดคุยที่ไม่ค่อยถนัด รู้สึกเหมือนมีอะไรที่ระคายเคืองอยู่ในช่องปากตลอดเวลา เนื่องจากโครงสร้างภายในช่องปากเปลี่ยนไป อีกทั้งมีอาการปวดบวมที่เกิดขึ้นหลังผ่าตัดที่อาจสร้างความเจ็บปวดและทำให้บดเคี้ยวลำบากกว่าเดิม

แก้ปัญหาหลังใส่รากฟันเทียมยังไงได้บ้าง

1. ประคบเย็น

หลังจากการผ่าตัดเสร็จจะมีอาการปวดบวมอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติและอาการปวดบวมจะค่อยๆ หายเองอยู่แล้ว เพียงแต่การประคบเย็นจะช่วยบรรเทาอาการปวดบวมได้เร็วยิ่งขึ้น สำหรับการประคบเย็นที่ถูกต้องให้นำผ้าชุบน้ำเย็นหรือถุงเจลเย็นประคบบริเวณที่บวมในช่วง 24 ชั่วโมงแรก โดยประคบครั้งละ 15-20 นาที และพัก 20 นาที ทำซ้ำๆ จนกว่าอาการจะทุเลา ทั้งนี้ไม่ควรกดหรือสัมผัสแรงๆ บริเวณแผลเพราะอาจทำให้แผลอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น แต่หากผ่านไป 48 ชั่วโมงแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นหรือรุนแรงกว่าเดิมให้รีบไปพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะถ้าฝืนประคบเย็นต่อไปความเย็นจากผ้าชุบน้ำเย็นหรือถุงเจลเย็นอาจไม่มีผลต่อการลดบวมอีกต่อไปค่ะ

2. ทานยาแก้ปวด

แม้ว่าอาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ยังมีอีกหลายคนที่ทนปวดไม่ได้อยู่ดี หมอณัฐแนะนำให้ทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol), ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole), ยาเบนโซเคน (Benzocaine) เป็นต้น แต่ทั้งนี้จะต้องทานภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ด้วยนะคะ เพราะถ้าคนไข้ทานยาจนครบกำหนดแล้วยังไม่หายหรือไม่ดีขึ้นแล้วไปซื้อยามาทานเอง ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับยาเกินขนาดจนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ด้วยค่ะ

3. งดพฤติกรรมเสี่ยง

สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาหลังการทำรากฟันเทียมได้ง่ายขึ้นมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสกับแผลผ่าตัดอยู่บ่อยๆ ทำให้แผลเกิดการระคายเคืองและใช้เวลาสมานตัวนานขึ้น, ส่วนการสูบบุหรี่นั้นนอกจากจะชะลอการไหลเวียนของเลือดบริเวณเหงือกและกระดูกแล้ว บุหรี่ยังเต็มไปด้วยสารพิษจำนวนมากที่มีผลต่อการสมานแผลช้าลงและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น

4. เปลี่ยนรากฟันเทียมใหม่

กรณีที่เกิดปัญหาหลังใส่รากฟันเทียม เช่น รากฟันเทียมอักเสบ, รากฟันเทียมหลุด, รากฟันเทียมเสื่อสภาพหรือชำรุด หรือแม้แต่ทันตแพทย์คนเก่าวางตำแหน่งการฝังรากฟันเทียมที่ไม่เหมาะสมก็อาจทำให้คนไข้ต้องเปลี่ยนรากฟันเทียมใหม่ แม้จะสามารถทำได้แต่เปลี่ยนรากฟันเทียมใหม่จะมีความซับซ้อนที่มากกว่า เนื่องจากทันตแพทย์จะต้องพิจารณาสภาพช่องปากโดยรวมและฟื้นฟูสภาพกระดูกหรือเหงือกร่วมด้วย

แม้ว่าการทำรากฟันเทียมจะมีผลข้างเคียงหลังการรักษาอยู่บ้าง แต่หากคุณปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัดก็อาจลดปัญหาหรือช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ให้หายเร็วได้ยิ่งขึ้น กลับกันถ้าคุณไม่ใส่ใจคำแนะนำของทันตแพทย์ก็อาจเกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมายจนถึงขั้นต้องเปลี่ยนรากฟันเทียมใหม่ที่นอกจากจะเสียเงินเพิ่มแล้วยังเสียเวลา และที่สำคัญอาจเกิดอาการปวดบวมที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่คุณเพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ

บทความที่น่าสนใจ

จัดฟันที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง