หลายคนที่กำลังประสบปัญหารากฟันเทียมอักเสบอาจใช้วิธีการรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ในความเป็นจริงแล้วการทานยาไม่ได้ช่วยรักษาที่ต้นเหตุแต่อย่างใด ว่าแต่ต้นเหตุของภาวะดังกล่าวเกิดจากอะไร ทำไมกินยาแล้วไม่หายสักที แล้วมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง หมอณัฐมีคำตอบมาฝากค่ะ
รากฟันเทียมอักเสบคืออะไร
เป็นภาวะอักเสบที่เกิดขึ้นรอบๆ รากฟันเทียมที่ทำให้กระดูกขากรรไกรที่ทำหน้าที่รองรับรากฟันเทียมละลาย หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็อาจทำให้รากฟันเทียมหลุดได้ในอนาคต โดยภาวะนี้จะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียในพื้นที่รอบๆ รากฟันเทียม ซึ่งเกิดจากการสะสมของคราบหินปูนหรือการดูแลช่องปากที่ไม่ดี ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่พื้นที่นั้นและเกิดการอักเสบตามมา
สาเหตุของรากฟันเทียมอักเสบ
1. การติดเชื้อจากแบคทีเรีย
จริงอยู่ที่ช่องปากของเรามีเชื้อแบคทีเรียอยู่แล้ว เพียงแต่แบคทีเรียจะมีปริมาณที่สมดุล ไม่มากเกินไป แต่หากคุณดูแลทำความสะอาดช่องปากไม่ดีพอหรือไม่ถูกวิธี ก็อาจเกิดการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและเข้าสู่พื้นที่รอบๆ รากฟันเทียมจนเกิดการติดเชื้อที่ก่อให้เกิดการอักเสบและการละลายของกระดูก
2. ได้รับบาดเจ็บบริเวณรากฟันเทียม
หากเกิดอุบัติเหตุจนได้รับการบาดเจ็บบริเวณรอบๆ รากฟันเทียมก็อาจทำให้เนื้อเยื่อรอบๆ ฟันเทียมบางลงและเสี่ยงต่อการอักเสบติดเชื้อได้
3. การวางตำแหน่งรากฟันเทียมที่ไม่เหมาะสม
หากคุณหมอประเมินสภาพของกระดูกขากรรไกรที่ไม่ดี, เลือกขนาดหรือประเภทของรากฟันเทียมที่ไม่เหมาะสม, คุณหมอวางตำแหน่งไม่ตรงกับโครงสร้างช่องปากแบบที่ควรจะเป็น ก็อาจทำให้รากฟันเทียมเคลื่อนหรือหลวม เนื่องจากกระดูกรอบๆ รากฟันเทียมละลายเร็วขึ้น และที่สำคัญยังทำให้เกิดการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรียรอบๆ รากฟันเทียมได้ง่ายขึ้น ซึ่งนำมาสู่การอักเสบและติดเชื้อในที่สุด
4. ปัจจัยทางสุขภาพ
เช่น โรคเบาหวาน, ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดรากฟันเทียมอักเสบเนื่องจากร่างกายตอบสนองต่อการติดเชื้อได้ไม่ดีเท่าที่ควร
อาการของรากฟันเทียมอักเสบ
- บวมแดงบริเวณเหงือกรอบๆ รากฟันเทียม
- มีเลือดออกระหว่างบดเคี้ยวอาหาร แปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟัน
- รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณที่รากฟันเทียมฝังอยู่
- รากฟันเทียมเริ่มหลวมหรือขยับได้ เนื่องจากกระดูกละลาย
- มีกลิ่นปาก หรือรสชาติอาหารเปลี่ยนแปลงไป
- อาการอักเสบเรื้อรัง ทำให้รักษารากฟันเทียมยากขึ้น
รากฟันเทียมอักเสบ ทำไมกินยาแล้วไม่หายสักที
หลายคนอาจไม่ทราบว่าการใช้ยาปฏิชีวนะเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการรักษาปัญหารากฟันอักเสบที่เกิดขึ้น เนื่องจากยาไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ ตัวยาไม่สามารถกำจัดแบคทีเรียที่สะสมอยู่รอบๆ รากฟันเทียมได้ ซึ่งแบคทีเรียที่อยู่รอบๆ นี้ก็มาจากคราบหินปูนหรือสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่บนรากฟันเทียม จำเป็นจะต้องให้คุณหมอทำความสะอาดรากฟันเทียมหรือการรักษาเชิงลึกเพิ่มเติมเท่านั้นค่ะ
รากฟันเทียมอักเสบ อันตรายไหม
หากคุณปล่อยให้รากฟันเทียมอักเสบเป็นเวลานานก็อาจสร้างปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหากระดูกละลาย ทำให้รากฟันเทียมไม่มั่นคงและอาจหลุดได้, การติดเชื้อเรื้อรังที่สร้างความเสียหายถาวรต่อกระดูกและเนื้อเยื่อรอบๆ รากฟันเทียม, รากฟันเทียมเคลื่อนที่หรือหลุดง่ายขึ้นเนื่องจากกระดูกอ่อนแอ และอาจสร้างความเสียหายต่อเหงือกและฟันข้างเคียงได้อีกด้วยค่ะ
รากฟันเทียมอักเสบ รักษาอย่างไรได้บ้าง
1. ทำความสะอาดรากฟันเทียม
ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมืออัลตราโซนิกในการกำจัดคราบหินปูนและแบคทีเรียที่สะสมรอบๆ รากฟันเทียม โดยเครื่องมือดังกล่าวจะใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการสั่นสะเทือนเพื่อกระเทาะและกำจัดคราบหินปูนออกจากพื้นผิวรากฟันเทียมโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อหรือรากฟันเทียม ทั้งนี้คุณหมออาจใช้ Curette ในการขจัดสิ่งสกปรกและคราบหินปูนในบริเวณที่เข้าถึงยาก หรือใช้เลเซอร์เย็น (Low-level laser therapy) เพื่อลดการอักเสบและกระตุ้นกระบวนการรักษาของเนื้อเยื่อร่วมด้วย
2. การรักษาด้วยการผ่าตัด
ในกรณีอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อทำความสะอาด โดยคุณหมอจะผ่าตัดเพื่อเปิดเหงือกรอบๆ รากฟันเทียมแล้วจึงทำความสะอาดและกำจัดเนื้อเยื่อที่อักเสบที่อยู่ภายในเหงือก แต่หากกระดูกรอบๆ รากฟันเทียมละลายไปมาก คุณหมออาจต้องกราฟกระดูกเพื่อเสริมสร้างกระดูกใหม่รอบๆ รากฟันเทียม โดยใช้กระดูกจากแหล่งอื่นหรือวัสดุสังเคราะห์แทน
3. การกำจัดรากฟันเทียม (กรณีที่จำเป็น)
หากคุณหมอวินิจฉัยแล้วว่ารากฟันเทียมอักเสบรุนแรงจนไม่สามารถรักษาได้หรือหากกระดูกขากรรไกรรอบๆ รากฟันเทียมถูกทำลายไปมากจนไม่สามารถรองรับรากฟันเทียมได้อีกต่อไป การถอดรากฟันเทียมออกจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่คุณหมอต้องทำ โดยคุณหมอจะเปิดเหงือกเพื่อให้เข้าถึงรากฟันเทียมได้สะดวกขึ้น จากนั้นจะใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อดึงหรือหมุนรากฟันเทียมออกจากกระดูกขากรรไกร เมื่อถอนเสร็จแล้วคุณหมอจะแนะนำให้เสริมกระดูก (Bone Grafting) ที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูกใหม่เพื่อเตรียมพร้อมต่อการฝังรากฟันเทียมใหม่ในอนาคต
สุดท้ายนี้หากเกิดความผิดปกติบริเวณรากฟันเทียม ไม่ว่าจะเป็นอาการเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม หมอณัฐขอแนะนำให้รีบมาพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยรักษาอาการและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึึ้นในระยะยาวได้แล้ว ยังช่วยให้คุณสามารถใช้รากฟันเทียมไปได้อีกนานๆ เลยค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
- รวม 10 คำถาม ตอบทุกข้อสงสัย ก่อนที่คุณจะทำรากฟันเทียม
- ความรู้สึกหลังใส่รากฟันเทียมเป็นอย่างไร ทำยังไงให้หายบวมไวๆ
- ข้อห้ามทำรากฟันเทียมมีอะไรบ้าง อย่างไหนต้องระวังเป็นพิเศษ
จัดฟันที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic
หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง
รีวิวจัดฟันกับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น
ฟันล่างคร่อมฟันบน ไม่ผ่าตัดได้ไหม ใช้เวลาจัดฟันกี่ปี
ฟันล่างคร่อมฟันบนถือเป็นอีกหนึ่งปัญหาช่องปากที่พบได้บ่อย นอกจากจะมีผลต่อความมั่นใจที่ลดลงเวลาพูดคุยหรือยิ้มแล้ว [...]
ฟันสบเปิดคืออะไร อันตรายไหม ทำไมถึงสร้างความยุ่งยากในระยะยาว
หนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น อีกทั้งมีผลต่อความมั่นใจที่ลดลงเวลายิ้มหรือพูดคุยกับผู้อื่น [...]
ฟันสบลึกคืออะไร มีผลอย่างไรต่อฟัน ทำไมต้องรีบรักษาโดยด่วน
โดยทั่วไปแล้วฟันของคนเราจะสบอยู่ประมาณ 1-2 [...]
กระดูกฟันละลายเกิดจากอะไร ทำไมต้องรีบแก้หากจะทำรากฟันเทียม
กระดูกฟันละลายมักพบได้บ่อยในผู้ที่สูญเสียฟันหรือมีปัญหาด้านสุขภาพช่องปาก ที่ไม่ได้รับรักษาอย่างทันท่วงที [...]
ปัญหาหลังใส่รากฟันเทียมที่คุณไม่ควรละเลย เพื่อช่องปากที่ดี
หลังจากการใส่รากฟันเทียมไปได้สักพัก ก็อาจเกิดปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนบางอย่างที่ทำให้คุณใช้ชีวิตประจำวันได้ลำบากขึ้น [...]
รากฟันเทียมอักเสบเกิดจากอะไร ทำไมกินยาแล้วไม่หายสักที
หลายคนที่กำลังประสบปัญหารากฟันเทียมอักเสบอาจใช้วิธีการรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ แต่ในความเป็นจริงแล้วการทานยาไม่ได้ช่วยรักษาที่ต้นเหตุแต่อย่างใด [...]