ตอบทุกข้อสงสัย ไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับการจัดฟัน

การจัดฟัน

หากใครที่กำลังมีปัญหาสุขภาพช่องปากจนรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่รับประทานอาหาร มีกลิ่นปากเหม็นจนคนรอบข้างทนไม่ได้ หรือฟันซ้อนเกที่ลดความมั่นใจทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน แล้วต้องการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว บางคนอาจสงสัยว่าถ้าจะเริ่มจัดฟันครั้งแรกต้องเตรียมตัวอย่างไร ต้องรู้อะไรก่อนไปจัดฟันบ้าง วันนี้หมอณัฐจะมาเล่าให้ฟังค่ะ

1. เตรียมตัวอย่างไรก่อนจัดฟันครั้งแรก

อย่างแรกอยากให้คุณศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดฟันก่อนนะคะ เพราะการจัดฟันจะต้องใช้เวลานานอย่างต่ำ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องมือจัดฟัน) และที่สำคัญต้องมีเวลามาพบคุณหมอทุกครั้งตามนัดเพื่อให้คุณหมอปรับเครื่องมือจัดฟันให้เหมาะกับช่องปากของคนไข้ หากคุณมีแพลนเดินทางจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศหรือย้ายถิ่นฐาน ไม่สามารถเดินทางมาจัดฟันกับคลินิกเดิมได้ อาจต้องทำการย้ายเคสจัดฟันกับคลินิกใหม่ ซึ่งจะทำให้คนไข้เสียค่าใช้จ่ายเพื่อทำพิมพ์ปากใหม่ นอกจากนี้ยังต้องรื้อเครื่องมือจัดฟันออกทั้งหมดเพื่อติดเครื่องมือชุดใหม่ คนไข้บางรายจำเป็นต้องถอนฟันเพิ่มตามดุลยพินิจของคุณหมอท่านใหม่ และที่สำคัญอาจทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้นด้วยนะคะ

และเมื่อคนไข้ตัดสินใจจะจัดฟันแล้ว คนไข้จะต้องเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพในช่องปากเพื่อดูความผิดปกติต่าง ๆในช่องปากทั้งที่สามารถมองเห็นและมองไม่เห็นได้ด้วยตา เมื่อคุณหมอตรวจดูช่องปากคนไข้เรียบร้อยแล้วจึงเคลียร์ช่องปากให้เป็นปกติก่อนเริ่มจัดฟัน จากนั้นจึงวางแผนการรักษาโดยคนไข้เลือกรูปแบบเครื่องมือจัดฟันว่าสะดวกติดเครื่องมือประเภทไหน คนไข้เลือกได้ด้วยว่าจะเก็บฟันบางซี่เอาไว้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การให้คำปรึกษาของคุณหมอด้วยนะคะ หลังจากตัดสินใจเรียบร้อยแล้วคุณหมอจะแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนและระยะเวลาของการจัดฟัน ค่าใช้จ่าย รวมถึงแผนการจัดฟันด้วยค่ะ

2. จัดฟันครั้งแรกอายุเท่าไหร่ดี

โดยทั่วไปแล้วการจัดฟันสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุ (ไม่เกิน 60 ปี) สำหรับช่วงอายุที่เหมาะต่อการจัดฟันมากที่สุดคือ 10 – 14 ปี เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างใบหน้ามากที่สุด หากจัดฟันในช่วงนี้จะส่งผลให้ฟันสามารถเคลื่อนที่ได้ง่าย ไม่เจ็บปวดจากการเคลื่อนฟันเหมือนช่วงวัยอื่นที่ฟันเริ่มแข็งแรงและยากต่อการปรับทิศทางฟัน

3. ขั้นตอนการจัดฟันครั้งแรกมีอะไรบ้าง

  • คุณหมอจะตรวจสุขภาพในช่องปากแล้ว คุณหมอจะพิมพ์ปากและ X-ray เพื่อดูโครงสร้างกระดูกใบหน้า, ขากรรไกร และลักษณะของฟันเพื่อวางแผนการรักษา จากนั้นจึงประเมินและแจ้งค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับจัดฟันให้คนไข้ทราบ ทั้งนี้คนไข้สามารถเลือกได้ว่าจะเลือกแผนการรักษาตามความสะดวกของคนไข้ แต่ต้องอยู่ภายใต้คำแนะนำของคุณหมอ หากมีข้อสงสัย หมอณัฐแนะนำให้ถามทันที เพราะหากเริ่มจัดฟันขึ้นมาเมื่อไหร่ อาจเป้นเรื่องยุ่งยากหากต้องมาเปลี่ยนทีหลัง
  • หลังจากได้ข้อตกลงแล้ว คุณหมอจะแจ้งให้ทราบว่ามีความจำเป็นที่จะต้องถอนฟันซี่ไหนบ้าง หลังจากนั้นจึงเริ่มเคลียร์ช่องปากก่อนการติดเครื่องมือจัดฟัน (อ่านเพิ่มเติม: ไขข้อข้องใจ ทำไมต้องเคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน)
  • เมื่อเคลียร์ช่องปากเสร็จแล้ว คุณหมอจะทำการติดเครื่องมือจัดฟันให้แก่คนไข้ ทั้งนี้คนไข้ควรศึกษาข้อมูลและเตรียมรับมือกับอาการปวดหลังจากจัดฟันให้ดี เพื่อให้แผนการรักษาเป็นไปตามที่คุณหมอวางไว้ ซึ่งจะเป็นเรื่องดีต่อตัวคนไข้เองและคุณหมอด้วยนะคะ

4. จัดฟันครั้งแรกใส่ยางสีอะไรดี

  • สำหรับคนผิวคล้ำ แนะนำให้เลือกสียางจัดฟันสีเข้มเพื่อเสริมให้ฟันดูเด่นขึ้น เช่น สีเขียว สีน้ำเงิน สีน้ำทะเล สีม่วง
  • สำหรับคนผิวขาว แนะนำให้เลือกสียางจัดฟันสีสว่างแต่ไม่สว่างมากจนกลืนไปกับสีของฟัน หรืออาจเลือสีเข้มไปเลยก็ดูเด่นได้ด้วยเช่นกัน เช่น สีชมพู สีฟ้า สีม่วง สีแดง

5. ทำไมบางคนต้องจัดฟันรอบสอง

  • ละเลยการใส่รีเทนเนอร์อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ฟันที่เคยเรียงตัวเป็นระเบียบในช่วงจัดฟัน กลับมาล้มอีกครั้ง
  • มีปัญหามาจากรากฟันหรือกระดูกรอบรากฟัน จนทำให้ฟันเคลื่อนที่ไปยังบริเวณนอกกระดูกและเกิดปัญหาฟันล้ม
  • คนไข้บางรายไม่ได้ถอนฟันในการจัดฟันรอบแรก เมื่อจัดฟันเสร็จแล้วอาจมีเหตุให้ต้องถอนฟันเพิ่มและกลับมาจัดฟันใหม่อีกรอบ
  • การจัดฟันรอบแรกแก้ปัญหาฟันยื่นได้ไม่ดีเท่าที่ควร
  • คุณหมอบางท่านไม่มีความเชี่ยวชาญมากพอในการรักษา ทำให้ผลการรักษาคลาดเคลื่อน
  • ตัวคนไข้เองละเลยหรือมีเหตุ เช่น ย้ายถิ่นฐาน, ย้ายที่ทำงาน ทำให้ไม่ได้เข้าพบคุณหมอตามนัดหมายหลายเดือนหรือหลายปี ทำให้ผลการรักษาคลาดเคลื่อน

6. ใครบ้างไม่ควรจัดฟันรอบสอง

  • ผู้ที่มีปัญหาฟันโยก
  • ผู้ที่มีโครงสร้างฟันภายนอกหรือภายในผิดปกติ
  • ผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบ
  • ผู้ที่มีรากฟันใต้เหงือกละลายตัวเยอะเกินไป ไม่สามารถพยุงฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันได้

7. จัดฟันรอบสองต้องถอนฟันไหม

ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของคนไข้แต่ละคนค่ะ หากฟันของคนไข้เคลื่อนตัวจนกลายเป็นฟันซ้อนมากขึ้น หรือมีปากอูมจากภาวะฟันยื่น อาจมีความจำเป็นจะต้องถอนฟันออกเพิ่มค่ะ

8. จัดฟันรอบสองใช้เวลากี่เดือน

หมอณัฐขอแบ่งออกเป็น 2 กรณีนะคะ สำหรับคนไข้ที่ต้องถอนฟัน อาจใช้เวลารักษาประมาณ 20 – 30 เดือน ส่วนคนไข้ที่ไม่ต้องถอนฟันอาจใช้เวลารักษาประมาณ 6 – 15 เดือน ขึ้นอยู่กับการเรียงตัวของฟันคนไข้แต่ละคนค่ะ

9. จัดฟันรอบ 2 เจ็บกว่ารอบแรกไหม

ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องมือจัดฟันและสภาพช่องปากของคนไข้แต่ละคนค่ะ หากรอบแรกคนไข้จัดฟันโลหะแต่รอบสองสะดวกเป็นจัดฟันใสซึ่งออกแบบเครื่องมือเฉพาะคนไข้รายนั้น ความเจ็บปวดจากการเคลื่อนตัวของฟันก็จะน้อยกว่ารอบแรกค่ะ หรือหากคนไข้มีปัญหาฟันล้มจากการจัดฟันครั้งก่อน การจัดฟันรอบที่สองอาจจะเจ็บปวดได้เช่นกันค่ะ

10. จัดฟัน ราคาเท่าไหร่

สำหรับบริการจัดฟันจาก Tooth Luck Dental Clinic มีค่าบริการจัดฟันตามประเภทเครื่องมือดังต่อไปนี้ค่ะ

  • จัดฟันโลหะ ราคา 35,000-50,000 บาท
  • รีเทนเนอร์ (คู่ละ) ราคา 3,000 บาท
  • จัดฟันแบบสองชั้น (AOSC) ราคา 40,000-50,000 บาท
  • จองโปรจัดฟัน ราคา 999 บาท
  • จัดฟันใส Invisalign go เริ่มต้นที่ 69,000 บาท

11. จัดฟันที่ไหนดี ทำไมต้อง Toothluck Dental Clinic

หากคุณมีปัญหาช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนฟันเก ฟันห่าง ฟันสบผิดปกติ หรือกำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟัน เรา Tooth Luck Detal Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมสำหรับเด็กและทุกคนในครอบครัว เรามีทีมทันตแพทย์พร้อมให้บริการทันตกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจัดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด ฟอกสีฟัน ขูดหินปูน อุดฟัน รักษารากฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ ฟันปลอม และบริการทันตกรรมสำหรับเด็ก มาพร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน และครบครัน ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ และชาวจังหวัดขอนแก่นอย่างแท้จริง

ทำไมต้องทำฟันที่-Toothluck

รีวิวจัดฟันใส Invisalign กับ Tooth Luck dental clinic คลินิกทำฟัน จัดฟัน ขอนแก่น

บทความที่น่าสนใจ